คูปองสำหรับเช่ารถของ Budget / AVIS /Hertz / SIXT

เช่ารถด้วยคูปองครั้งแรก ควรอ่าน

- 0 ความคิดเห็น

คูปอง รถเช่า หรือ voucher รถเช่า เป็นคูปองที่บริษัทผู้ให้บริการรถเช่าออกขายให้ผู้ต้องการจะเช่ารถและรับ เงินสดไปก่อน ผู้ซื้อสามารถนำคูปองไปใช้เช่ารถได้ภายใน 1 ปี 

คูปองรถเช่ามีหลายบริษัท ปัจจุบันมี 4 เจ้าหลักๆคือ เอวิส (Avis), บัดเจ็ท (Budget), ซิคท์ (Sixt) และ เฮิร์ (Hertz) แต่ละบริษัทจะมีราคาไม่เท่ากัน มีการบริการ และสภาพรถที่ต่างกันครับ ข้อดีข้อเสียของแต่ละเจ้าสามารถหาอ่านได้จากบทความในเวปครับ


การเช่ารถด้วยคูปองจะแบ่งราคาค่าเช่าเป็น 4 อัตรา คือ



การคำนวณจำนวนคูปองรถเช่าที่จะต้องใช้

คูปอง 1 ใบสามารถใช้เช่ารถได้ 24 ชั่วโมง และวันสุดท้าย
สามารถคืนรถช้าได้ 4 ชั่วโมงจากเวลารับรถ สำหรับคูปองเอวิส (Avis) บัดเจ็ท (Budget) และเฮิร์ (Hertz) 

*คืนรถช้าได้ 3 ชม สำหรับคูปองซิคท์ (Sixt)
 

การ คืนรถเลทได้ถึง 4 ชั่วโมงเป็นจุดเด่นของคูปองรถเช่าครับ เพราะถ้าจองตรง walk in หรือจองผ่านทางเวปของบริษัทรถเช่า จะคืนรถเลทได้สูงสุด 1 ชั่วโมงจากเวลารับรถเท่านั้น

ตัวอย่าง : ถ้ารับรถเช่าวันจันทร์เวลา 9.00 น. แล้วคืนรถวันพุธ เวลา 13.00 น.

กรณีนี้ใช้คูปองรถเช่า 2 ใบ และคืนรถเลทไป 4 ชั่วโมง ยังอยู่ในเงื่อนไข 4 ชั่วโมง ไม่ต้องเสียค่าชาร์จเช่ารถเกินเวลา 


ซึ่งกรณีนี้ถ้าเราจองทางเวปหรือเช่าตรงกับ call center จะคิดค่าเช่า 3 วัน

ข้อควรระวัง : หากคืนเกินที่กำหนดเวลาไว้ 4 ชั่วโมง จะเสียค่าใช้จ่ายโดยคิดเพิ่มเป็นเต็มวันครับ





ทำตาม 4 ขั้นตอนง่ายๆตามนี้ก็จะสามารถใช้คูปองรถเช่าได้แล้วครับ

1.ตรวจสอบคุณสมบัติผู้เช่ารถ


o อายุอย่างน้อย 21 ปี
o มีใบขับขี่ (ยังไม่หมดอายุ)
o มีบัตรเครดิตวงเงินเหลือพอสำหรับรูดมัดจำ 5,000 - 8,000 บาท (ใช้ของตนเองหรือของคนที่ไปด้วยกันก็ได้ ผู้ขับขี่และผู้รูดมัดจำไม่จำเป็นต้องเป็นคนเดียวกัน) ไม่รับบัตรเดบิตทุกกรณี ไม่มีบัตรเครดิตเช่าไม่ได้ทุกกรณี



2.เตรียมข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการเช่ารถ


 o รุ่น หรือ ประเภทรถที่อยากได้
 o วันและเวลา รับและคืนรถเช่า
 o สถานที่รับและคืนรถเช่า

ทางร้านจะคำนวณจำนวณคูปองที่ต้องใช้ และราคาค่าเช่ารถทั้งหมดให้ทราบ



3. ติดต่อซื้อคูปอง 


เพื่อนำรายเอียดบนหน้าคูปอง ไปโทรจองรถกับผู้ให้บริการรถเช่าล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 วัน

* ทางผู้เช่าต้องเป็นผู้โทรจองรถเองครับ
* ถ้าศูนย์จองรถรับจองแล้วก็แสดงว่า บริษัทรถเช่าต้องมีรถให้ผู้เช่าตามวันที่จองล่วงหน้าไว้ และจะมี SMS หรือ E-mail ส่งยืนยันให้ลูกค้า



4.เมื่อถึงวันรับรถ นำตัวคูปองรถเช่า"ฉบับจริง", บัตรประชาชน, ใบขับขี่ และบัตรเครดิต ไปรับรถด้วย


*ถ้าลืม นำคูปองรถเช่าไปจะต้องเสียอัตราค่าเช่าตามที่บริษัทกำหนด ซึ่งแพงกว่าการใช้คูปองราวๆ 30-50% ส่วนคูปองที่ลืมสามารถเก็บไว้ใช้เช่ารถภายหลังได้





ประกันภัยสำหรับคูปองรถเช่า มีอยู่ 4 แบบ คือ

1.ประกันภัยชั้นหนึ่งแบบมีความรับผิดชอบส่วนแรก เรียกว่า ประกันชนิด"มี Deduct" (รวมอยู่ในคูปองทุกแบบ เป็นประกันภัยพื้นฐาน)


คือ เมื่อรถเกิดความเสียหายหรืออุบัติเหตุกับตัวรถ กรณีที่ผู้เช่าเป็นฝ่ายผิดหรือไม่มีคู่คู่กรณี ผู้เช่าต้องเป็นคนรับผิดชอบค่าเสียหายตามจริง แต่จ่ายสูงสุดไม่เกิน 8,000 บาท 

ถ้ากรณีผู้เช่าเป็นฝ่ายถูกและมีคู่กรณี ผู้เช่าไม่ต้องรับผิดชอบค่าเสียหาย

ตย.เช่น ขับรถเช่าไปเกี่ยวกิ่งไม้รถเป็นรอย ก็ต้องรับผิดชอบจ่ายค่าเสียหายตามที่บริษัทรถเช่าแจ้ง



2.ประกันภัยชั้นหนึ่งแบบไม่ต้องมีความรับผิดชอบส่วนแรก เรียกว่า ประกันชนิด"ไม่มี Deduct"
(รวมอยู่ในคูปอง เฉพาะรุ่นไม่มี deduct)

คือ เมื่อรถเกิดความเสียหายหรืออุบัติเหตุกับตัวรถ กรณีที่ผู้เช่าเป็นฝ่ายผิดหรือไม่มีคู่กรณีก็ตาม ผู้เช่าไม่ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายใดๆ เลย

ตย. เช่น ขับรถไปเกี่ยวกิ่งไม้รถเป็นรถ ผู้เช่ารถไม่ต้องจ่ายสักบาท หรือ ขับรถไปชนต้นไม้รถพังยับทั้งคัน ผู้เช่ารถไม่ต้องจ่ายสักบาทเช่นกัน

ราคา คูปองแบบ"ไม่มี Deduct"จะแพงกว่าแบบ"มีดีดัก" เพียงวันละร้อยกว่าบาทเท่านั้นเอง จ่ายเพิ่มอีกเพียงเล็กน้อยแต่ขับสบายใจกว่าเยอะมากครับ เพราะหากมีอุบัติเหตุหรือความเสียหายเกิดขึ้นกับตัวรถทีนึง อย่างน้อยๆต้องเสียเงินอย่างน้อยหลักพันแน่ๆครับ

*ช่วงหลังทางร้าน เหลือคูปองแบบ"มีดีดัก"เพียงรถรุ่นเล็กสุดรุ่นเดียวเท่านั้นสำหรับคนที่ต้อง การเช่ารถในราคาต่ำสุดๆ รถรุ่นที่ใหญ่ขึ้นมาไม่ได้ซื้อแบบ"มีดีดัก"มาจำหน่ายแล้ว เนื่องจากไม่ค่อยมีคนซื้อ เพราะซื้อคูปองประกันแบบ"ไม่มีดีดัก" คุ้มกว่าเยอะมากจริงๆครับ

*ค่าประกันชั้นหนึ่งแบบไม่ต้องมีความรับผิดชอบส่วนแรกที่เราจ่ายเพิ่ม  ยังไม่รวมความเสียหายของ เบาะ ยางรถยนต์ (เช่น ยางแตก) และการสูญหายของกุญแจ



3.ประกันการโจรกรรมรถ หรือเรียกง่ายๆว่าประกันรถหาย (ไม่รวมในคูปอง)


กรณี รถหายผู้เช่าไม่ต้องรับผิดชอบค่าเสียหาย โดยต้องมีการรายงานเหตุการณ์ให้ตำรวจ มีการลงบันทึกประจำวัน และต้องมีการคืนกุญแจรถเช่าให้ผู้ให้บริการ การมีกุญแจคืนแสดงว่ารถหายไม่ได้เกิดจากความประมาทของผู้เช่าครับ

คูปองรถเช่าของเอวิส (Avis) บัดเจ็ท (Budget) และ เฮิร์ (Hertz) จะไม่รวมประกันแบบนี้ครับ ต้องซื้อเพิ่ม


o เอวิส ซื้อเพิ่มราคา 171.2 บาท/วัน (รวม vat)
o บัดเจ็ท และ เฮิร์ ซื้อเพิ่มราคา 53.5 บาท/วัน (รวม vat)


ส่วนคูปองรถเช่าของซิคท์ Sixt และ Hertz จะรวมประกันรถหายในคูปองแล้ว

ประกันรถหายไม่จำเป็นนักครับ ถ้าเราไม่ขับรถเข้าไปพื้นที่เสี่ยง เช่น ชายแดน เป็นต้น ถ้าไม่ได้ทำประกันรถหาย แล้วเกิดรถหายขึ้นมาจะเสียค่าปรับราวๆ 10,000 - 20,000 บาทเท่านั้น (ขึ้นอยู่กับรุ่นรถ) ผู้เช่าไม่ต้องถึงขั้นจ่ายเงินเป็นแสนเพื่อซื้อรถใหม่ครับ



4.ประกันค่ารักษาพยาบาลเมื่อเกิดอุบัติเหตุและค่าชดเชยกรณีเสียชีวิต (ไม่รวมในคูปอง)

เป็นประกันสำหรับค่ารักษาพยาบาลสำหรับตัวผู้เช่าและผู้ร่วมทางกรณีขับรถเช่าไปเกิดอุบัติเหตุ โดยมีความคุ้มครอง ค่ารักษาพยาบาล ทุพลภาพ และค่าชดเชยสำหรับทรัพย์สินที่เสียหายครับ

ไม่จำเป็นถึงที่สุดครับ แทบไม่มีลูกค้ารายไหนซื้อประกันค่ารักษาพยาบาลเพิ่มเลยครับ เพราะส่วนใหญ่มีประกันส่วนตัวกันอยู่แล้ว



การรับและคืนรถเช่ามี 2 แบบครับ

1.การรับคืนรถเองที่สาขา

ปกติ บริษัทรถเช่าจะมีสาขาอยู่ในสนามบินอยู่แล้ว คือมีเคาน์เตอร์อยู่ในสนามบินเลย หรือถ้าไม่มีเคาน์เตอร์ในสนามบิน ก็จะมีสาขาใกล้ๆสนามบินมากและบริษัทจะนำรถมาส่งให้ลูกค้าที่สนามบินฟรี

เพราะ ลูกค้าหลักของบริษัทรถเช่าคือ ลูกค้าที่ขึ้นลงเครื่องบิน ดังนั้นถ้าผู้เช่าจะรับคืนรถที่สนามบินก็สามารถรับคืนได้เลย ไม่คิดค่าบริการเพิ่ม ต่ต้องอยู่ในช่วงเวลาที่บริษัทรถเช่าให้บริการ ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่จะสามารถรับหรือคืนรถได้ดึกตามรอบขึ้นหรือลงของเครื่องบินได้ฟรี

รถ เช่าจะต้องรับและคืนรถที่สาขาเดิมเท่านั้น แต่บางจังวัดจะมีหลายสาขา เช่น กรุงเทพมีสาขาในตัวเมือง สาขาสนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเราสามารถคืนที่สาขาไหนก็ได้ ไม่มีคิดค่าบริการเพิ่ม เพราะเป็นจังหวัดเดียวกัน

การคืนรถเช่าต่างสาขาคนละจังหวัด จะมีคิดค่าบริการเพิ่ม ดังนี้

ราคาค่าบริการคืนรถต่างสาขา (ราคายังไม่รวมค่าเช่ารถ)
 

บัดเจ็ท (Budget)
o เช่ารถ 1 - 3 วัน ต่อเนื่อง ค่าบริการ 3,210 บาท (รวมภาษี)
o เช่ารถ 4 - 6 วัน ต่อเนื่อง ค่าบริการ 1,605 บาท (รวมภาษี)
o เช่ารถ 7 วัน ต่อเนื่อง ไม่คิดค่าบริการ

เอวิส (Avis) & ซิคท์ (Sixt)
o ต้องเช่ารถอย่างน้อย 3 วัน ต่อเนื่อง ค่าบริการขึ้นกับระยะทางต้องสอบถามทางเอวิส
o เช่า 7 วัน ต่อเนื่อง ไม่คิดค่าบริการ

เฮิร์ท (Hertz)
o ต้องเช่ารถอย่างน้อย 3 วัน ต่อเนื่อง ค่าบริการขึ้นกับระยะทางต้องสอบถามทางเฮิร์ต
o เช่า 5 วัน ต่อเนื่อง ไม่คิดค่าบริการ


สำหรับ คนที่ต้องการเช่ารถจากจังหวัดหนึ่ง เพื่อไปคืนรถที่สนามบินอีกจังหวัดหนึ่งจะเห็นว่าราคาที่ต้องจ่ายเพิ่มแพงมาก เนื่องจากบริษัทรถเช่าต้องมีค่าใช้จ่ายในการไปรับรถกลับมาคืนที่สาขาเดิม จึงต้องคิดค่าบริการในอัตราตามจำนวนวันเช่าหรือตามระยะทาง


2. การใช้บริการรับคืนรถ นอกสถานที่

กรณี ที่ลูกค้าต้องการจะรับหรือคืนรถเช่า นอกสถานที่ที่ไม่มีบริษัทไม่มีสาขาอยู่ เช่น ให้บริษัทรถเช่า นำรถไปส่ง หรือให้ไปรับรถคืนที่โรงแรม ท่าเรือ ท่ารถทัวร์ เป็นต้น จะมีเงื่อนไขเพิ่มเติม ดังนี้

กรณีเช่ารถ 1 - 2 วัน จะคิดค่าบริการเพิ่ม ค่าบริการขึ้นกับแต่ละบริษัทรถเช่า และขึ้นกับระยะทาง โดยค่าส่งรถเริ่มต้นเที่ยวละ 321 บาท


กรณี เช่ารถอย่างน้อย 3 วัน ต่อเนื่อง รับ หรือ ส่งรถฟรี ในระยะ 15 หรือ 30 กม ตามเงื่อนไขของแต่ละบริษัท หากเกินระยะทางที่กำหนดจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม

 

l carrentcheap l



[Continue reading...]

การคำนวณราคาเช่ารถเมื่อใช้คูปองรถเช่า AVIS และ BUDGET

- 0 ความคิดเห็น

หยิบเครื่องคิดเลข แล้วมาลองคำนวณค่าใช้จ่ายกันดูครับ ;D
 
 


- 1 วันนับเป็น 24 ชั่วโมง วันสุดท้ายแถมได้ไม่เกิน 4 ชั่วโมง สำหรับ AVIS และ Budget


- กรณีวันหยุด ที่ต้องจ่ายส่วนต่างราคาค่า Voucher เพิ่มนับตามตัวอย่างครับ


ตัวอย่าง 1 : เช่ารถ Avis รุ่น VIOS โดยใช้คูปองชนิด"ไม่มี Deduct" วันพฤหัส เวลา 12.00 น. เช่ารถ 2 วัน จะต้องคืนรถในวันเสาร์ ไม่เกิน 16.00 น.

การนับ Voucher จะนับเป็น 

 - วันแรก วันพฤหัส-วันศุกร์ นับเป็นวันธรรมดา เพราะรับรถวันพฤหัสบดี คิดเป็นราคาค่าเช่ารถ 740 บาท

 - วันที่สอง วันศุกร์-วันเสาร์ นับเป็นวันหยุด ดังนั้นต้องจ่ายส่วนต่างราคา/ค่าธรรมเนียมเพิ่ม 1 วัน ในวันที่สองครับ คิดเป็นราคาค่าเช่ารถ 740 + 250 = 990 ครับ

รวมเช่ารถ 2 วันราคา 740 + 990 = 1730 บาท เฉลี่ยวันละ 865 บาทเท่านั้นครับ (ราคารวมประกันชั้น 1 แล้ว)


ตัวอย่าง 2 : สนามบินตรัง รถ VIOS แบบ "ไม่มี deduct" วันจันทร์ที่ 15 - พุธที่ 18 เมษายน

การเช่ารถเดือนเมษายนต้องระวังครับ เนื่องจากช่วงนี้มี Peak period หลายวัน ซึ่งหากตรงวัน peak period จะถูก charge 500 บาทต่อวัน เพิ่มจากราคาคูปองครับ


ทั้ง Avis และ Budget มีวัน Peak period เหมือนกัน ซึ่งจะคิดราคาค่าเช่าได้ ดังนี้

ของ Avis

วันที่ 15 ถึง 16 = 740 + 500
วันที่ 16 ถึง 17 = 740 + 500
วันที่ 17 ถึง 18 = 740 + 500


ของ Budget

วันที่ 15 ถึง 16 = 790 + 500
วันที่ 16 ถึง 17 = 790 + 500
วันที่ 17 ถึง 18 = 790 + 500


ราคารวม Avis 3,720 บาท ของ Budget 3870 บาท เฉลี่ยประมาณวันละ 1240 ถึง 1290 บาท > ราคาสูงกว่าปกติครับ เนื่องจากช่วง Peak period คนเที่ยวจำนวนมาก จำนวนรถเช่าไม่เพียงพอ ทางบริษัทรถเช่าจึงสามารถชาร์จราคาได้ครับ

l carrentcheap l

[Continue reading...]

มือใหม่หัดเช่ารถ - ข้อมูลสำหรับมือใหม่หัดเช่ารถ

- 0 ความคิดเห็น


      ข้อมูลเกี่ยวกับ " คูปองรถเช่า " และหลักเกณฑ์ของการเช่ารถ สำหรับผู้ที่ไม่เคยเช่ารถมาก่อน จะได้นำคูปองรถเช่าไปใช้ได้อย่างสบายใจครับ :D



หลักเกณฑ์ในการเช่ารถ 


   1. ผู้เช่าต้องมีอายุมากกว่า 21 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป  

  2. มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล 

  3. ต้องมีบัตรเครดิต **อันนี้สำคัญที่สุด เพราะทุกเจ้าจะมีการกักวงเงินจากบัตรเครดิต วงเงินที่กักแตกต่างกันไป 

- Budget 5,000 บาท

- AVIS 8,000 บาท

- Hertz ประกันวงเงิน 10,000 บาท (บัตรใครมีวงเงินน้อยๆ เตรียมขอวงเงินฉุกเฉินไว้ก่อนเลยครับ)

- Sixt 5,000 บาท

การกักวงเงินของรถเช่าคืออะไร อ่านรายละเอียดที่ > Click

    เงื่อนไขในการเช่ารถ

    1 วันนับเป็น 24 ชั่วโมง วันสุดท้ายแถมได้ไม่เกิน 4 ชั่วโมง สำหรับ AVIS, Budget และ Hertz และแถมได้ไม่เกิน 3 ชั่วโมงสำหรับ Sixt


         ตัวอย่าง เช่น สำหรับ Budget หากเช่ารถวันจันทร์ เวลา 12.00 น. เช่ารถ 1 วันจะต้องคืนรถวันอังคาร ช้าสุดได้ไม่เกิน 16.00 น. หรือ ถ้าเช่ารถ 2 วัน จะต้องคืนรถวันพุธ ช้าสุดได้ไม่เกิน 16.00 น.

    กรณีวันหยุด ที่ต้องจ่ายส่วนต่างราคาค่า Voucher เพิ่มนับอย่างนี้ครับ 


    ตัวอย่าง เช่น รถวันพฤหัส เวลา 12.00 น. เช่ารถ 2 วัน จะต้องคืนรถในวันเสาร์ ไม่เกิน 16.00 น. (หรือตามเวลาออฟฟิศปิด) 

    การนับ Voucher จะนับเป็น 

     - วันแรก วันพฤหัส-วันศุกร์ นับเป็นการเช่ารถ"วันพฤหัส" เพราะรับรถวันพฤหัสบดี 

     - วันที่สอง วันศุกร์-วันเสาร์ นับเป็นการเช่ารถ"วันศุกร์" ซึ่งเป็น weekend ดังนั้นต้องจ่ายค่าชาร์จ weekend เพิ่ม 1 วัน ในวันที่สองครับ

        กรณีเช่ารถแบบไม่เต็ม 24 ชั่วโมง  

        สมมุติว่า บินไปรับรถวันศุกร์ตอนเช้า แต่คืนรถวันเสาร์ตอนเย็น จะมีเศษเวลาเช่าเหลืออยู่ประมาณครึ่งวัน ก็ต้องทิ้งไปครับ ต้องใช้ Voucher 2 ใบ นับเป็น 2 วันตามปกติ เก็บส่วนที่เหลือๆ ไปรวมกันไม่ได้ครับ

          ประกันภัย

          บริษัทรถเช่ารายใหญ่ จะมีประกันอุบัติเหตุ 2 แบบครับ คือ

          1. ประกันภัยพื้นฐาน มักเรียกว่า ประกันชั้น 1 แบบมี deduct ประกันชนิดนี้การชนแบบมีคู่กรณีแล้วเราเป็นฝ่ายถูก ไม่ต้องจ่ายเงิน แต่ถ้าเป็นการชนแบบไม่มีคู่กรณี หรือมีคู่กรณีแต่เราเป็นฝ่ายผิด จะมีค่าความเสียหายเบื้องต้นที่ผู้เช่าจะต้องรับผิดชอบ  (หรือที่เรียกว่าค่า Deduct ครับ)

          เช่น กรณีที่ผู้เช่าขับรถไปชน หาคนผิดไม่ได้ หรือถอยรถไปชนเสาไฟฟ้า กันชนยุบแตกหัก ผู้เช่าจะต้องชำระค่าเสียหาย ต่อบริษัทรถเช่า ตามที่บริษัทกำหนด แต่จะมีเพดานสูงสุดกำหนดไว้ ครับ

            - AVIS = ผู้เช่ารับผิดชอบสูงสุดไม่เกิน 8,000 บาท (กรณีรถชนเสียหายรุนแรงมากต้องซ่อมมากกว่า 8,000 บาท ทาง AVIS ก็จะคิดแค่ 8,000 ครับ)

            - Budget = ผู้เช่ารับผิดชอบสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท
          (กรณีรถชนเสียหายรุนแรงมากต้องซ่อมมากกว่า 10,000 บาท ทาง Budget ก็จะคิดแค่ 10,000 บาท)

            - Hertz = ผู้เช่ารับผิดชอบสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท กรณีรถพังยับทั้งคันไม่สามารถใช้การได้อีก รับผิดชอบสูงสุด 30,000 บาท

          2. ประกันภัยชั้น 1 แบบไม่มี deduct ประกันชนิดนี้ เกิดอุบัติเหตุทุกกรณีไม่ต้องรับผิดชอบ (ยกเว้นยางแตก) เหมาะสำหรับผู้เช่าที่รู้สึกไม่สบายใจ กลัวเกิดอุบัติเหตุ ควรซื้อคูปองที่มีประกันชนิดไม่มี Deduct ซึ่งราคาจะแพงกว่าเล็กน้อย ประมาณร้อยกว่าบาทต่อวัน เพื่อจะได้ไม่ต้องจ่าย 8,000-30,000 บาทในกรณีที่รถเกิดอุบัติเหตุที่เราเป็นฝ่ายผิดหรือไม่มีคู่กรณีครับ


          คุณภาพของรถเช่า

          Budget คุณภาพรถจะดีที่สุดครับ มีการควบคุมอายุรถไม่เกิน 2 ปี หรือเลขไมล์ไม่เกิน 100,000 กิโลเมตรครับ

          รถทุกคันเป็นรุ่นรองท๊อป (อาทิเช่นวีออสรุ่น E หรือ S หรือแจ๊สใหม่รุ่น V) ติดฟิล์มกรองแสงอย่างดี รถค่อนข้างใหม่ สภาพดีที่สุดครับ

          Hertz รถจะเป็นรุ่นต่ำสุด เกียร์อัตโนมัติ (อาทิเช่นวีออสรุ่น J หรือแจ๊สใหม่รุ่น S) ติดฟิล์มกรองแสงอย่างดี รถค่อนข้างใหม่

          AVIS รถจะเป็นรุ่นต่ำสุด (อาทิเช่นวีออสรุ่น J) ทุกคัน "ไม่ได้ติดฟิล์มกรองแสง" ขับไปร้อนไป ปัจจุบันเอวิสเริ่มปรับตัวโดยรถรุ่นใหม่ๆที่ซื้อเข้ามามีการติดฟิล์มกรอกแสงแล้วทุกคันครับ

          แต่ข้อดีของ AVIS ก็มีครับ เลยทำให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจอยู่ คือถ้าไม่มี Voucher แล้วไปจองเช่ารถจะมีราคา Pre-Paid Rate ที่ถูกกว่าเจ้าอื่นๆ เช่น เช่า Vios เกียร์ออโต้ ราคาโทรจองล่วงหน้า 1 วันจ่ายแค่ 1,080 บาท/วันเท่านั้นครับ


          ขั้นตอนการรับรถเช่า - ส่งคืนรถเช่า

          กรณีที่ผู้เช่าใช้คูปองชนิด no deduct ในการเช่า

          ก็ตรวจสภาพรถเช่าภายนอกพอเป็นพิธีหรือบางครั้งก็ไม่ตรวจเลย เพราะเกิดอะไรขึ้น เช่นรอยรอบตัวรถ หรือรถบุบไม่เป็นไรอยู่แล้ว 

          แต่ให้เน้นที่จุดต่อไปนี้ครับ เพราะประกันจะ"ไม่คลอบคลุม" 

          1.ยาง ถ้าขับๆไปยางแตก เพราะสาเหตุอะไรก็ตาม ผู้เช่ายังต้องจ่ายเงินค่าเสียหาย ดังนั้นถ่ายรูปสภาพยางไว้ก็ดีครับ ว่ายางไม่เก่าจนเกินไป สภาพยังดีอยู่

          2. อุปกรณ์ภายในตัวรถ เช่น เบาะ ควรตรวจสอบว่าไม่มีรอยเปื้อน หรือเสียหายฉีกขาด ถ้าเปื้อนมากๆ หรือฉีกขาด ผู้เช่าต้องรับผิดชอบค่าทำความสะอาดครับ


          กรณีผู้เช่าใช้คูปองชนิดมี deduct

          แนะนำให้ตรวจสภาพรถรอบคันอย่างละเอียด ก่อนที่จะเซ็นต์ชื่อรับรถครับ
          ริ้ว รอย รอยแมว รอยบุบ แตกหัก รอยอะไรที่คิดว่าไม่ปกติ ต้องแจ้งให้พนักงาน ลงบันทึกให้หมด เพื่อจะได้ไม่เป็นปัญหาตอนคืนรถครับ เดินวนรอบรถซัก 1-2 รอบก็ได้ แล้วดูในใบบันทึกสภาพรถก่อนที่จะเซ็นต์รับรถครับ

          สำหรับการเช่ารถ หลายบริษัทจะบอกว่า ความเสียหายจะนับเมื่อเกินการ "แตก หัก ยุบ บุบสลาย ครูด พังเสียหาย" ที่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน แต่ถ้าเป็นรอยแมวขีดข่วนนิดๆ หน่อยๆ รอยยางมะตอย ไม่เป็นไรครับ 

          ตอนคืนรถก็ช่วยเจ้าหน้าที่ดูอีกแรงหนึ่งก็ได้ครับ ส่วนมากมักไม่มีปัญหาอะไรแล้ว รอยแมวเล็กๆ น้อยๆ เค้าก็ไม่ว่าอะไรไม่มีปัญหาครับ (ถ้าซื้อประกันภัยเพิ่มมา จนท. ก็แทบจะไม่ดูรถเลยเหมือนกัน)

          ส่วน ความเสียหายอื่นๆ เช่น ความเสียหายในรถ อุปกรณ์สูญหาย หน้ายางเสีย อันนี้ประกันไม่ได้รับผิดชอบนะครับ เช่นเดียวกันกับ ผู้เช่าทำกุญแจรถหาย อันนี้ผู้เช่าก็ต้องรับผิดชอบเช่นกันครับ

           **ราคาเช่ารถ กรณีเช่ารถแบบไม่ได้ใช้คูปอง Voucher สำหรับรถเล็ก (วีออส แจ๊ส ซิตี้) ราคาค่าเช่ารถประมาณ 1,2xx - 1,7xx บาท/วัน ซึ่งหากเช่ารถโดยการใช้ " คูปอง / Voucher" แล้ว ราคาจะถูกลงมากครับ


          l carrentcheap l



          [Continue reading...]

          ใช้คูปองเช่ารถกับ Avis และ Budget ถูกกว่าจริง! มาตรวจสอบกัน

          - 0 ความคิดเห็น

          เราสามารถตรวจสอบราคาเช่ารถตามปกติได้ทางเวปไซด์ครับ (เทียบเท่าการจองรถโดยไม่ใช้คูปอง) มาดูกันครับว่าการใช้คูปองช่วยประหยัดค่าเช่ารถจริงหรือไม่ และเท่าไร ไม่ต้องเสียค่าโทรศัพท์ไปหา Call center ด้วยครับ

          ขั้นตอนที่ 1 : เข้าไปที่ www.budget.co.th จะเจอจอตามรูป กรอกข้อมูลเข้าไปเลยครับ 

          (1) สถานที่ที่จะไปเอารถเช่า เครื่องหมายถูกในช่องคือ จะนำรถเช่าไปคืนที่เดียวกับที่รับรถ ในรูปผมกรอกว่าจะรับและคืนรถที่สนามบินเชียงใหม่

          (2) วันที่จะใช้รถเช่าเมื่อไร ในรูปผมลองวันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม เวลา 10.00 น. ถึงเสาร์ 31 สิงหาคม เวลา 10.00 น เช่าเป็นเวลา 5 วัน ผมกรอกให้มีสุดสัปดาห์คือวันศุกร์ และเสาร์ด้วย และกรอกจองรถล่วงหน้า 1 สัปดาห์ (วันนี้วันที่ 18 สิงหาคมครับ)

          (3) กดที่ "Get rates" เลยครับ จะได้รู้กันว่าใครถูกกว่า :D



          ขั้นตอนที่ 2 : เวปของ Budget จะให้เราเลือกรุ่นรถที่จะเช่า พร้อมบอกราคาเช่าต่อวัน

          หน้าเวปนี้เราจะเห็นแล้วครับว่าค่าเช่ากี่บาทต่อวัน >> เฉลี่ยแล้ว 1,406.46 บาทต่อวัน !!! แพงมากครับ แต่เดี๋ยวก่อนครับ Click ที่ "continue" ไปที่หน้าสุดท้ายของการจองผ่านเวปก่อนครับ




          ขั้นตอนที่ 3 : ตรวจเงื่อนไขต่างๆของการเช่ารถ

          ตำแหน่งที่ 1 : ระบุว่า ราคา 1,406.46 บาทต่อวัน ยังไม่รวมภาษี vat อีก 7%!!! ถ้ารวมภาษีราคาเป็น 1,504.91 บาทต่อวัน (ในรูปเป็นราคาภาษีรวมการเช่า 5 วัน)

          ตำแหน่งที่ 2 : ระบุว่า หากเกิดความเสียหายรับผิดชอบสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท สำหรับรถรุ่น CPMR, MCAR และ ECAR (Vios, city, Jazz) ส่วนรถรุ่นสูงขึ้นค่ารับผิดชอบสูงสุดจะเพิ่มเป็น 15,000 และ 20,000 บาท 

          และถ้าคนขับอายุ 18 - 21 ปี ความเสียหายที่ต้องรับผิดชอบสูงสุดจะเพิ่มขึ้นเท่าตัว เช่น ความเสียหายรับผิดชอบสูงสุดไม่เกิน 20,000 บาท สำหรับรถรุ่น CPMR, MCAR และ ECAR (Vios, city, Jazz)

          ชนิดของประกันตามด้านบนเทียบเท่า ประกันแบบมี deduct ของคูปองรถเช่าครับ

          ตำแหน่งที่ 3 : เป็นการยืนยันอีกครั้งว่า ประกันอุบัติเหตุไม่ใช่ประกันชั้น 1 (Super Damage Waiver Insurance = ประกันอุบัติเหตุชั้น 1 แบบ No deduct ครับ)



          เทียบราคากับการใช้คูปอง

          กรณีประกันแบบมี deduct ตามที่จองหน้าเวปด้านบน และเช่ารถ Vios, city หรือ Jazz เป็นเวลา 5 วัน

          การใช้คูปองจะราคา 650 + 650 + 650 + 650 + 650 + 300 =3,550 บาท* (ราคารวม Vat 7% แล้ว)

          เฉลี่ย 3,550/5 = 710 บาทต่อวันเท่านั้น
           

          เมื่อเทียบกับราคาจองตรงด้านบน 1,504.91 บาทต่อวัน การเช่ารถโดยใช้คูปองราคาถูกกว่าเกินครึ่งครับ

          * ใช้คูปองแบบมี deduct ราคา 650 จำนวน 5 ใบ และมีค่าชาร์จการใช้วันศุกร์ 300 บาทครับ

          _______________________________________

          สำหรับรถเช่า AVIS ก็สามารถตรวจสอบราคาทางเวปไซต์ได้ มาดูกัน มี 2 ขั้นตอนครับ

          ขั้นตอนที่ 1 : เข้าไปที่ http://www.avisthailand.com/TH/index.php จะเจอจอตามรูป กรอกข้อมูลเข้าไปเลยครับ 

          (1) สถานที่ที่จะไปเอารถเช่า

          (2) รุ่นรถที่จะใช้

          (3) วันที่จะเช่ารถ และวันที่จะคืนรถเช่า

          (4) กรอกข้อมูล (1)-(3) เรียบร้อยแล้วก็กด "Continue" เลยครับ โดยในรูปผมกรอกข้อมูลเหมือนกับที่กรอกกับเวปไซด์ของ Budget ตามด้านบนครับ




          ขั้นตอนที่ 2 : เวปของ AVIS จะสรุปราคาเช่าทั้งทริปให้

          จากรูป (1) ราคาค่าเช่ารถ + (2) ประกันภัยชนิดมี deduct + (3) ภาษีมูลค่าเพิ่ม Vat = ค่าเช่ารถทั้งทริป

          จะเห็นว่าค่าเช่ารถที่เชียงใหม่เป็นเวลา 5 วัน ประกันภัยชนิดมี deduct ราคา 3,999.98 บาท คิดง่ายๆคือ 4,000 บาทแล้วกัน คิดเป็นค่าเช่ารายวัน =4000/5 = 800 บาทต่อวันครับ


          เทียบราคากับการใช้คูปอง

          การใช้คูปองจะราคา 650 + 650 + 650 + 650 + 650 + 300 =3,550 บาท* (ราคารวม Vat 7% แล้ว)

          เฉลี่ย 3,550/5 = 710 บาทต่อวัน ใช้คูปองถูกกว่า 90 บาทต่อวัน (ถูกกว่า 13% ครับ)


          l carrentcheap l


          [Continue reading...]

          4 เหตุผลที่คุณควรซื้อคูปองรถเช่ากับ l carrentcheap l

          - 0 ความคิดเห็น



          1. l carrentcheap l เป็นเพียงเจ้าเดียว ที่ส่งเลขคูปองให้คุณไปจองรถก่อน จองได้แล้วถึงโอนเงิน

          รับประกันมีรถใช้ แล้วค่อยจ่ายเงิน รอรับคูปองตัวจริงอยู่บ้านด้วยความสบายใจ 

          - บางเจ้าลูกค้าต้องโอนเงินก่อน จึงจะได้เลขคูปองไปจองรถ แล้วถ้ารถเต็มล่ะ โอนเงินไปแล้วด้วยทำยังไงดี 

          - บางเจ้าให้ลูกค้าโทรไปเช็ครถก่อน > ถ้ามีรถ ค่อยโทรมาซื้อคูปอง > ลูกค้าโอนเงิน แล้วก็โทรแจ้งผู้ขาย > ผู้ขายถึงจะส่งเลขคูปองให้ > ลูกค้าก็โทรไปจองรถอีกครั้ง จะโทรหลายขึ้นตอนไปมั้ย

          - บางเจ้ายิ่งหนักกว่า โอนเงินแล้ว ต้องรอคูปองตัวจริงส่งมาถึงบ้านอีก 2-3 วัน พอได้คูปองถึงจะจองรถได้ รถเต็มแน่นอน


          2. l carrentcheap l มีรุ่นรถที่หลากหลายคลอบคลุมทุกแบบ ทุกผู้ให้บริการรถเช่า

          เพราะเรามีคูปองของผู้ให้บริการหลายเจ้า และมีรถเช่าหลายรุ่น ทำให้เมื่อโทรไปจองรถแล้วรถเต็ม สามารถเปลี่ยนคูปองเป็นของผู้ให้บริการอื่น หรือรถเช่ารุ่นอื่นที่ว่างได้ทันที


          3. l carrentcheap l สามารถเลือกคูปองที่ทำให้เช่ารถได้คุ้มค่าที่สุด และรับคืนคูปองในราคาที่ซื้อไป

          - เรารู้ว่าช่วง peak period ของแต่ละผู้ให้บริการไม่ตรงกัน และชาร์จราคาต่างกัน (ช่วง Peak period คือช่วงหยุดยาวที่มีคนเที่ยวจำนวนมาก รถเช่ามักไม่เพียงพอ ช่วงนี้ผู้บริการจะชาร์จเพิ่มจากค่าคูปอง 500 - 700 บาท/วัน)

          - เรารู้ว่าคูปองของผู้ให้บริการบางรายไม่มีชาร์จวันหยุดนักขัตฤกษ์

          - เรารู้เทคนิคการเช่ารถเจ๋งๆ  เช่น คุณสามารถยื่นคูปองตัวจริงตอนคืนรถเช่าได้ (ปกติต้องยื่นตอนรับรถ) หรือบางกรณีคุณควรรับรถวันพฤหัสเย็นแทนที่จะเป็นวันศุกร์เช้าจะได้ไม่ถูกชาร์จ weekend ฯลฯ

          - เรามีบริการนัดรับคูปอง หรือส่งแมสเซนเจอร์สำหรับผู้ใช้รถเช่าเร่งด่วน

          - เรารับคืนคูปองที่ซื้อไปเต็มราคา (เงื่อนไขมีข้อเดียว คือ คูปองต้องอายุเหลือมากกว่า 2 เดือน)


          4. l carrentcheap l มีสต็อกสินค้ามาก มีของแน่นอน และน่าเชื่อถือ

          ในเวปบอร์ดประกาศขายจะมีรายย่อยมาขายคูปองถูกกว่ารายอื่น 10 - 20 บาท แต่มีของน้อย บางครั้งคูปองหมดแล้ว แต่ข้อความประกาศขายยังอยู่ หรือหากมีคูปอง ผู้ซื้ออาจต้องรับความเสี่ยงเรื่องไม่ส่งของมาให้อีก เพราะการประกาศขายของทำได้ง่ายมาก ไม่ต้องลงทุน ได้เงินครั้งเดียวหนีได้เลย

          l carrentcheap l มี website และ Facebook เป็นหลักแหล่งชัดเจน มีการอัปเดตข้อมูลตลอดเวลา และมีประสบการณ์การขายมายาวนาน มั่นใจได้ว่าส่งของแน่นอน



          l carrentcheap l



          update บทความเมื่อ : วันที่ 8 มีนาคม 2559


          [Continue reading...]

          ประกันภัยชนิดต่างๆของรถเช่า

          - 0 ความคิดเห็น

          เพื่อให้การเดินทางด้วยรถเช่าเป็นไปอย่างสะดวก สบายกาย สบายใจ และไม่ต้องกังวลกับค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ทางผู้ให้บริการรถเช่าทุกราย (เอวิส AVIS , บัดเจ็ท BUDGET , เฮิร์ท Hertz, ซิค SIXT) จึงมีบริการประกันภัยให้เลือกทำตอนเช่ารถครับ ซึ่งประกันของรถเช่าจะมีแค่ 4 แบบนี้เท่านั้นครับ



          1. ประกันอุบัติเหตุ แบบจำกัดความรับผิดชอบ


          เป็นประกันภัยพื้นฐานที่ติดมาพร้อมกับการเช่ารถทุกรุ่น 

          ประกันอุบัติเหตุแบบนี้ คือ กรณีเกิดอุบัติเหตุที่ผู้เช่ารถเป็นฝ่ายผิดหรือไม่มีคู่กรณี หรือรถมีรอยขีดข่วนจากการขับขี่ ผู้เช่าต้องรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริงกับตัวรถ แต่สูงสุดไม่เกิน 8,000 บาทสำหรับเอวิส และไม่เกิน 10,000 บาท สำหรับบัดเจ็ท, เฮิร์ท Hertz และ ซิค SIXT

          *กรณีเกิดอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณีแล้วผู้เช่าเป็นฝ่ายถูก ผู้เช่าไม่ต้องรับผิดชอบค่าเสียหาย

          ประกันชนิดนี้ภาษาอังกฤษ คือ Collision Damage Waiver (CDW) มักเห็นในใบเสร็จตอนเราเช่ารถ ตอนจองรถผ่านเวปไซต์ หรือตอนผู้ให้เช่าส่งเมลมายืนยันการเช่าให้เราครับ

          ประกันชนิดนี้เทียบเท่ากับคูปองชนิดประกันภัยชั้น 1 แบบมี Deduct (Deduct ดีดัก = ค่าความรับผิดชอบส่วนแรก เมื่อเกิดอุบัติเหตุ)

          สรุป : ประกันภัยแบบนี้ คือประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 ที่เข้าใจกันโดยทั่วไปนั่นเอง และกฎหมายบังคับให้รถทุกคันต้องทำ จึงเป็นประกันที่รวมอยู่ในการเช่ารถทุกครั้งอยู่แล้วครับ


           2. ประกันอุบัติเหตุ แบบไม่มีความรับผิดชอบ 
             
          ผู้เช่ารับผิดชอบความเสียหายที่เกิดกับรถเช่า กรณีเกิดอุบัติเหตุทุกกรณี ศูนย์ บาท ไม่สนใจว่าผู้เช่าจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิด

          *ประกันเฉพาะตัวรถ ไม่รวมการเสียหายของยางรถยนต์ และไม่รวมค่ารักษาพยาบาลของผู้เช่าและผู้ร่วมทาง

          ประกันชนิดนี้ภาษาอังกฤษ คือ Super Collision Damage Waiver (SCDW) มักเห็นในใบเสร็จตอนเราเช่ารถ ตอนจองรถผ่านเวปไซต์ หรือตอนผู้ให้เช่าส่งเมลมายืนยันการเช่าให้เราครับ

          ประกันชนิดนี้เทียบเท่ากับคูปองชนิดประกันภัยชั้น 1 แบบไม่มี Deduct (Deduct ดีดัก = ค่าความรับผิดชอบส่วนแรก เมื่อเกิดอุบัติเหตุ)

          สรุป : ประกันภัยแบบนี้ คือประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ที่เข้าใจกันโดยทั่วไปนั่นเองครับ






              3. ประกันรถหายจากการโจรกรรม 

          กรณีรถหายไม่ต้องรับผิดชอบค่าเสียหาย โดยต้องมีการรายงานเหตุการณ์ให้ตำรวจ มีการลงบันทึกประจำวัน และต้องมีการคืนกุญแจรถเช่าให้ผู้ให้บริการ

          * ของส่วนตัวที่อยู่ในรถไม่รวมอยู่ในการประกัน
          ** ถ้าไม่มีกุญแจรถเช่าคืน แสดงว่าเกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่ ประกันจะไม่คลอบคลุมครับ

          คูปองรถเช่าของเอวิส บัดเจ็ท และ เฮิร์ท จะไม่รวมประกันแบบนี้ครับ ต้องซื้อเพิ่ม (คูปองรถเช่าของซิค SIXT จะรวมประกันรถหายแล้ว)

          เอวิส AVIS ซื้อเพิ่มราคา 171.2 บาท/วัน (รวม vat)
          บัดเจ็ท BUDGET และ เฮิร์ท Hertz ซื้อเพิ่มราคา 53.5 บาท/วัน (รวม vat)




            4. ประกันอุบัติเหตุสำหรับผู้เช่าและผู้ร่วมทาง

           เป็นประกันสำหรับค่ารักษาทางการแพทย์สำหรับตัวผู้เช่าและผู้ร่วมทางกรณีขับรถเช่าไปเกิดอุบัติเหตุ โดยมีความคุ้มครอง ค่ารักษาพยาบาลและค่าชดเชยได้ตามตาราง



          คูปองรถเช่าของทุกเจ้า ไม่มีประกันแบบนี้อยู่ครับต้องซื้อเพิ่มในราคา 160.5 บาท/วัน (รวม vat)

          * ราคาประกันต่างๆ ทางผู้ให้บริการรถเช่ามีการ update ตลอดเวลา ขอให้ตรวจสอบข้อมูลล่าสุดกับ call center เมื่อทำการเช่ารถอีกครั้งครับ 


          --------------------------------------------------

          วิเคราะห์สไตล์ l carrentcheap l

          สรุปคือประกันมี 3 แบบ หลักๆครับ

          1. ประกันอุบัติเหตุที่เกิดกับตัวรถ (ที่เรียกว่าประกันชั้น 1 แบบไม่มี deduct) 

          ประกันแบบนี้จำเป็น เพราะรถมีโอกาสเกิดรอยขีดข่วนหรือการเฉี่ยวชนได้ง่าย หรือหากรถชนพังยับทั้งคัน ผู้เช่าก็ไม่ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายครับ ทำให้ขับรถได้สบายใจขึ้นไม่ต้องเกร็ง คูปองเช่ารถแบบไม่มี deduct ได้รวมประกันชนิดนี้ไว้แล้วครับ

          2. ประกันรถหาย

          ประกันแบบนี้ไม่จำเป็นครับ ถ้าไม่ได้เข้าไปในที่เสี่ยง แค่ไปรีสอร์ตหรือโรงแรมไม่จำเป็นต้องทำ หากไม่ทำประกัน แล้วสืบสวนได้ว่าการที่รถหายไม่ได้เกิดจากความประมาทของผู้เช่า คือ มีกุญแจรถอยู่กับตัวและจอดในที่ควรจอด จะเสียค่าปรับ 10,000 - 20,000 เท่านั้นครับ (ขึ้นอยู่กับรุ่นรถ) ผู้่เช่าไม่ต้องจ่ายเยอะขนาดที่ต้องซื้อรถใหม่นะครับ 


          3.ประกันค่ารักษาพยาบาลผู้เช่าและผู้ร่วมทาง

          ไม่จำเป็นมากที่สุด ประกันชนิดนี้มีประโยชน์ในการเข้าโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษา การเกิดอุบัติเหตุที่รุนแรงจนทำให้ผู้ขับบาดเจ็บหนักถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาลเกิดได้ยากมากๆครับ ส่วนใหญ่จะเป็นเฉี่ยวชนมากกว่า บางคนมีประกันอุบัติเหตุส่วนตัวอยู่แล้ว ทำประกันแบบนี้เข้าไปอีกจะซ้ำซ้อนครับ


          l carrentcheap l

          [Continue reading...]
           
          Copyright © . คูปองเช่ารถ Avis , Budget, Hertz - Posts · Comments
          Theme Template by BTDesigner · Powered by Blogger