ได้ยินเค้าพูดกันว่าใช้ "คูปองรถเช่า" จะช่วยให้เช่ารถได้ถูกนี่มันจริงรึเปล่านะ วันนี้มาพิสูจน์กันทำตามขั้นตอนง่ายๆเพียง 5 ขั้นตอนครับ
การตรวจสอบจะเช็คราคาค่าเช่ารถ"ทางเวป"ของเอวิส (Avis) เปรียบเทียบกับค่าเช่ารถเมื่อใช้"คูปองรถเช่า"ครับ จะใช้เวลาราวๆ 10 นาที ใช้เวลานานกว่าของเจ้าบัดเจ็ท (Budget) และเฮิร์ต (Hertz) เนื่องจากเวปของเอวิสซับซ้อนกว่าเจ้าอื่นๆครับ แต่ถ้าทำตามนี้รับรองไม่งงแน่นอนครับ
ขั้นตอน 1 : เข้าเวป www.avisthailand.com > กรอกข้อมูล สถานที่รับรถ คืนรถ และ วัน-เวลาที่รับและคืนรถ
ขั้นตอน 2 : ระบบจะแสดงราคาค่าเช่ารถ ค่าเช่าเหมือนจะถูกแต่หน้านี้ยังไม่แจ้งเงื่อนไขของประกันภัย ให้เลือกรุ่นรถที่เราต้องการจะเช่าแล้ว click ไปหน้าถัดไปก่อน (ซึ่งราคาที่แจ้งหน้านี้จริงๆแล้วเป็นประกันอุบัติเหตุชั้น 3 ชนิดถูกสุดและราคายังไม่รวมภาษีอีก 7% ครับ)
* ตรงกรอบสี่เหลี่ยมเลข 1 จะเป็นว่าถ้าจองกระชั้นชิด หรือถ้ารถในระบบเหลือน้อยค่าเช่าจะยิ่งแพงขึ้น แต่สำหรับการใช้ "คูปองรถเช่า" ราคาค่าเช่าจะเท่ากันตลอด
* ด้านบนขวาจะเห็นว่า Free late return 4 hrs ซึ่งนี่เป็นข้อดีของเอวิสคือ จะคืนรถเช่าช้าได้ 4 ชม.ฟรีทั้งการจองทางเวป และการใช้คูปองรถเช่า
ขั้นตอนที่ 3 : ระบบจะให้กรอกข้อมูลส่วนตัว แต่ยังคงไม่แจ้งชนิดของประกันภัยที่ได้รับ
หน้านี้เราต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวก่อนครับ เพื่อจะได้ไปหน้าต่อไปได้
ให้กรอกข้อมูลมั่วๆลงไป แต่ต้องระวังมากๆ เพราะเพราะถ้ากรอกผิดระบบจะตีกลับไป step 1 ใหม่ ตั้งแต่หน้าแรก! ย้อนกลับมาแก้ไขหน้านี้ไม่ได้ หน้านี้เสียเวลามากๆ เพราะขนาดระวังแล้ว ผมยังกรอกผิดไปตั้ง 3 ครั้ง
- ต้องกรอกเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น
- ที่อยู่ ไม่ต้องใส่ก็ได้
- E-mail และเบอร์โทรศัพท์บังคับใส่ ให้คิดมั่วๆขึ้นมา (ถ้าไม่กรอก E-mail หรือเบอร์โทรศัพท์ แล้วกด continue ไป ระบบจะตีกลับไป Step 1 ใหม่! shock!)
- Voucher no ให้เว้นว่างไว้ ตรงนี้ไม่เกี่ยวกับเลขคูปองรถเช่าที่ร้านส่งให้ครับ
พอกรอกเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็กด continue ได้เลย
ขั้นตอนที่ 4 : เลือกชนิดของประกันภัย (จ่ายเงินเพิ่ม)
หน้านี้จะให้เลือกชนิดของประกันภัยเพิ่มเติมครับ ต้องการอันไหนเพิ่มก็กด Yes ได้เลย และหน้านี้จะยังไม่แจ้งราคา ว่าประกันชนิดต่างๆราคาเท่าไร จะเเจ้งราคาหน้าถัดไป
ระวัง! อย่าพึ่งรีบกดไปหน้าถัดไป เพราะระบบจะแอบสอดไส้ประกันที่ไม่จำเป็นเข้ามา เพื่อให้ค่าเช่าเเพงโดยใช่เหตุ จากในรูป ระบบกด Yes ในส่วนประกันของ theft protection มาให้เฉยเลย (ลับ-ลวง-พราง ทุกขั้นตอนจริงๆ)
ประกันที่ l carrentcheap l แนะนำให้ทำ คือ SCDW เท่านั้น และถ้าจะมีผู้ขับขี่มากกว่า 1 คน ก็ให้ทำประกัน Additional driver ด้วยครับ
ความหมายของประกันชนิดต่างๆเป็น ดังนี้
1. SCDW ผู้เช่ารับผิดชอบความเสียหายที่เกิดกับรถเช่า กรณีเกิดอุบัติเหตุทุกกรณี ศูนย์ บาท ไม่สนใจว่าผู้เช่าจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิด (คือไม่ต้องจ่ายรับผิดชอบค่าเสียหายกับตัวรถเลย)
จะเห็นว่า บน No มีเขียนว่า Rate include CDW หมายความว่าแม้เราจะ Click No ที่ตรงนี้รถเช่าเราก็ยังมีประกัน CDW ครับ
CDW เป็นประกันภัยพื้นฐานที่ติดมาพร้อมกับการเช่ารถทุกรุ่น คือ กรณีเกิดอุบัติเหตุที่ผู้เช่ารถเป็นฝ่ายผิดหรือไม่มีคู่กรณี หรือรถมีรอยขีดข่วนจากการขับขี่ ผู้เช่าต้องรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริงกับตัวรถ แต่จ่ายสูงสุดไม่เกิน 8,000 บาท แต่ถ้าผู้เช่าเป็นฝ่ายถูก ไม่ต้องรับผิดชอบค่าเสียหาย ประกันฯจะไปเครมจากคู่กรณีแทน
2. Theft Protection กรณีรถหายไม่ต้องรับผิดชอบค่าเสียหาย โดยต้องมีการรายงานเหตุการณ์ให้ตำรวจ มีการลงบันทึกประจำวัน และต้องมีการคืนกุญแจรถเช่าให้ผู้ให้บริการ
* ถ้าไม่มีกุญแจรถเช่าคืน แสดงว่าเกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่ ประกันจะไม่คลอบคลุม
3. GPS navigation equipment ใครต้องการ GPS ก็สามารถเช่าได้ครับ แต่ราคาก็วันละร้อยกว่าบาท แนะนำว่าใช้มือถือแล้วใช้ app google map เอาดีกว่า
4. Fuel Service Easy Return รถเช่ารับรถน้ำมันจะเต็มถัง ตอนคืนรถเช่าก็ต้องคืนพร้อมน้ำมันเต็มถัง ถ้าเลือก Yes ตรงนี้ตอนคืนรถก็ไม่ต้องเต็มน้ำมันเต็มถังครับ
การเลือกอันนี้จะคุ้มสุดเมื่อคืนรถแล้วไม่เหลือน้ำมันในถังเลย แต่ยังคงไม่แนะนำให้เลือกตรงนี้ เพราะค่าน้ำมันคิดแพงมาก ยังไงก็ไม่คุ้มครับ
5. Baby seat เบาะนั่งสำหรับเด็ก ถ้ามีเด็กเล็กแล้วเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยก็สามารถเช่าได้
6. PAI ย่อมาจาก Personal Accident Insurance เป็นประกันสำหรับค่ารักษาทางการแพทย์สำหรับตัวผู้เช่าและผู้ร่วมทางกรณีขับรถเช่าไปเกิดอุบัติเหตุ แล้วผู้เช่าต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาลหรือเสียชีวิต โดยมีความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลและค่าชดเชยตามกำหนด
7. Additional driver ปกติรถเช่าจะมีผู้ขับขี่ได้คนเดียว และประกันภัยจะมีผลเฉพาะกับผู้ขับขี่คนนี้เท่านั้น ถ้าจะให้ประกันครอบคลุมคนขับ 2 คน ต้องทำ Additional driver ครับ
จริงๆแล้วรถที่เช่า เราจะขับกี่คนทางบริษัทไม่รู้อยู่แล้ว แต่ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา โดยคนขับเป็นคนที่ไม่ใช่คนทำสัญญาเช่ารถ และไม่ได้ Add driver ไว้ ผู้เช่าต้องจ่ายค่าเสียหายกับตัวรถด้วย แม้ว่าจะทำประกันชนิด SCDW ไว้แล้วก็ตาม (เคสนี้เคยเป็นเคสดังในพันทิปมาแล้วครับ)
ขั้นตอนที่ 5 : ระบบจะสรุปราคาทั้งหมด (ตรงนี้จะเป็นราคาค่าเช่าจริงๆแล้ว)
จะเห็นว่าราคาที่แจ้งในขั้นตอนที่ 2 ยังไม่รวมภาษีอีก 7%
หน้านี้สามารถกดกลับไปแก้ไขชนิดของประกันภัยได้ โดยกดตรงปุ่ม BACK สีแดงๆข้างปุ่ม PAY NOW แล้วค่อยกดกลับมาหน้าสรุปราคาอีกครั้งได้ (ขอบคุณพระเจ้า...นึกว่าต้องย้อนไปหน้า 1 อีก)
----------------------------------------------------
ตามตัวอย่างด้านบน จะเห็นว่าผมลองจองรถล่วงหน้าประมาณ 1 เดือน (วันนี้วันที่ 29 มีนาคม) เพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับค่าเช่าที่จะสูงขึ้นหากจองรถกระชั้นชิด
ผมจองใช้รถสนามบินเชียงใหม่
รับรถ วันจันทร์ที่ 24 เมษายน เวลา 8.00 น.
คืนรถ วันศุกร์ที่ 28 เมษายน เวลา 11.00 น.
เป็นการใช้รถเช่าทั้งหมด 4 วัน 3 ชั่วโมง
เวปไซต์เอวิส คิดค่าเช่าแบบรวมประกันอุบัติเหตุชั้น 1 และรวมผู้ขับขี่ 2 คนรวมราคา 5049 บาท
เมื่อนำมาเทียบกับการใช้ "คูปองรถเช่า" แบบรวมประกันอุบัติเหตุชั้น 1 และรวมผู้ขับขี่ 2 คน จะเห็นว่าราคาเพียง 2960 บาท ถูกกว่าเกือบ 2 เท่า
หมายเหตุ : ความแตกต่างของราคาจองทางเวปกับการใช้คูปองรถเช่าอาจเปลี่ยนแปลงไป ขึ้นอยู่กับช่วงที่ใช้งานด้วย เช่น ช่วง weekend หรือวันหยุดยาว แต่อย่างไรก็ตาม การใช้คูปองก็ยังถูกกว่ามากอยู่ดี
ถ้าไม่เชื่อ ต้องลองครับ! ใช้เวลาเพียง 10 นาทีก็จะรู้แล้วว่าการใช้คูปองรถเช่า ช่วยให้ทริปของคุณเช่ารถประหยัดไปเท่าไร
l carrentcheap l
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น