คูปอง รถเช่า หรือ voucher รถเช่า เป็นคูปองที่บริษัทผู้ให้บริการรถเช่าออกขายให้ผู้ต้องการจะเช่ารถและรับ เงินสดไปก่อน ผู้ซื้อสามารถนำคูปองไปใช้เช่ารถได้ภายใน 1 ปี
คูปองรถเช่ามีหลายบริษัท ปัจจุบันมี 4 เจ้าหลักๆคือ เอวิส (Avis), บัดเจ็ท (Budget), ซิคท์ (Sixt) และ เฮิร์ท (Hertz) แต่ละบริษัทจะมีราคาไม่เท่ากัน มีการบริการ และสภาพรถที่ต่างกันครับ ข้อดีข้อเสียของแต่ละเจ้าสามารถหาอ่านได้จากบทความในเวปครับ
การเช่ารถด้วยคูปองจะแบ่งราคาค่าเช่าเป็น 4 อัตรา คือ
การคำนวณจำนวนคูปองรถเช่าที่จะต้องใช้
คูปอง 1 ใบสามารถใช้เช่ารถได้ 24 ชั่วโมง และวันสุดท้ายสามารถคืนรถช้าได้ 4 ชั่วโมงจากเวลารับรถ สำหรับคูปองเอวิส (Avis) บัดเจ็ท (Budget) และเฮิร์ท (Hertz)
*คืนรถช้าได้ 3 ชม สำหรับคูปองซิคท์ (Sixt)
การ คืนรถเลทได้ถึง 4 ชั่วโมงเป็นจุดเด่นของคูปองรถเช่าครับ เพราะถ้าจองตรง walk in หรือจองผ่านทางเวปของบริษัทรถเช่า จะคืนรถเลทได้สูงสุด 1 ชั่วโมงจากเวลารับรถเท่านั้น
ตัวอย่าง : ถ้ารับรถเช่าวันจันทร์เวลา 9.00 น. แล้วคืนรถวันพุธ เวลา 13.00 น.
กรณีนี้ใช้คูปองรถเช่า 2 ใบ และคืนรถเลทไป 4 ชั่วโมง ยังอยู่ในเงื่อนไข 4 ชั่วโมง ไม่ต้องเสียค่าชาร์จเช่ารถเกินเวลา
ซึ่งกรณีนี้ถ้าเราจองทางเวปหรือเช่าตรงกับ call center จะคิดค่าเช่า 3 วัน
ข้อควรระวัง : หากคืนเกินที่กำหนดเวลาไว้ 4 ชั่วโมง จะเสียค่าใช้จ่ายโดยคิดเพิ่มเป็นเต็มวันครับ
ทำตาม 4 ขั้นตอนง่ายๆตามนี้ก็จะสามารถใช้คูปองรถเช่าได้แล้วครับ
1.ตรวจสอบคุณสมบัติผู้เช่ารถ
o อายุอย่างน้อย 21 ปี
o มีใบขับขี่ (ยังไม่หมดอายุ)
o มีบัตรเครดิตวงเงินเหลือพอสำหรับรูดมัดจำ 5,000 - 8,000 บาท (ใช้ของตนเองหรือของคนที่ไปด้วยกันก็ได้ ผู้ขับขี่และผู้รูดมัดจำไม่จำเป็นต้องเป็นคนเดียวกัน) ไม่รับบัตรเดบิตทุกกรณี ไม่มีบัตรเครดิตเช่าไม่ได้ทุกกรณี
2.เตรียมข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการเช่ารถ
o รุ่น หรือ ประเภทรถที่อยากได้
o วันและเวลา รับและคืนรถเช่า
o สถานที่รับและคืนรถเช่า
ทางร้านจะคำนวณจำนวณคูปองที่ต้องใช้ และราคาค่าเช่ารถทั้งหมดให้ทราบ
3. ติดต่อซื้อคูปอง
เพื่อนำรายเอียดบนหน้าคูปอง ไปโทรจองรถกับผู้ให้บริการรถเช่าล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 วัน
* ทางผู้เช่าต้องเป็นผู้โทรจองรถเองครับ
* ถ้าศูนย์จองรถรับจองแล้วก็แสดงว่า บริษัทรถเช่าต้องมีรถให้ผู้เช่าตามวันที่จองล่วงหน้าไว้ และจะมี SMS หรือ E-mail ส่งยืนยันให้ลูกค้า
4.เมื่อถึงวันรับรถ นำตัวคูปองรถเช่า"ฉบับจริง", บัตรประชาชน, ใบขับขี่ และบัตรเครดิต ไปรับรถด้วย
*ถ้าลืม นำคูปองรถเช่าไปจะต้องเสียอัตราค่าเช่าตามที่บริษัทกำหนด ซึ่งแพงกว่าการใช้คูปองราวๆ 30-50% ส่วนคูปองที่ลืมสามารถเก็บไว้ใช้เช่ารถภายหลังได้
ประกันภัยสำหรับคูปองรถเช่า มีอยู่ 4 แบบ คือ
1.ประกันภัยชั้นหนึ่งแบบมีความรับผิดชอบส่วนแรก เรียกว่า ประกันชนิด"มี Deduct" (รวมอยู่ในคูปองทุกแบบ เป็นประกันภัยพื้นฐาน)
คือ เมื่อรถเกิดความเสียหายหรืออุบัติเหตุกับตัวรถ กรณีที่ผู้เช่าเป็นฝ่ายผิดหรือไม่มีคู่คู่กรณี ผู้เช่าต้องเป็นคนรับผิดชอบค่าเสียหายตามจริง แต่จ่ายสูงสุดไม่เกิน 8,000 บาท
ถ้ากรณีผู้เช่าเป็นฝ่ายถูกและมีคู่กรณี ผู้เช่าไม่ต้องรับผิดชอบค่าเสียหาย
ตย.เช่น ขับรถเช่าไปเกี่ยวกิ่งไม้รถเป็นรอย ก็ต้องรับผิดชอบจ่ายค่าเสียหายตามที่บริษัทรถเช่าแจ้ง
2.ประกันภัยชั้นหนึ่งแบบไม่ต้องมีความรับผิดชอบส่วนแรก เรียกว่า ประกันชนิด"ไม่มี Deduct" (รวมอยู่ในคูปอง เฉพาะรุ่นไม่มี deduct)
คือ เมื่อรถเกิดความเสียหายหรืออุบัติเหตุกับตัวรถ กรณีที่ผู้เช่าเป็นฝ่ายผิดหรือไม่มีคู่กรณีก็ตาม ผู้เช่าไม่ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายใดๆ เลย
ตย. เช่น ขับรถไปเกี่ยวกิ่งไม้รถเป็นรถ ผู้เช่ารถไม่ต้องจ่ายสักบาท หรือ ขับรถไปชนต้นไม้รถพังยับทั้งคัน ผู้เช่ารถไม่ต้องจ่ายสักบาทเช่นกัน
ราคา คูปองแบบ"ไม่มี Deduct"จะแพงกว่าแบบ"มีดีดัก" เพียงวันละร้อยกว่าบาทเท่านั้นเอง จ่ายเพิ่มอีกเพียงเล็กน้อยแต่ขับสบายใจกว่าเยอะมากครับ เพราะหากมีอุบัติเหตุหรือความเสียหายเกิดขึ้นกับตัวรถทีนึง อย่างน้อยๆต้องเสียเงินอย่างน้อยหลักพันแน่ๆครับ
*ช่วงหลังทางร้าน เหลือคูปองแบบ"มีดีดัก"เพียงรถรุ่นเล็กสุดรุ่นเดียวเท่านั้นสำหรับคนที่ต้อง การเช่ารถในราคาต่ำสุดๆ รถรุ่นที่ใหญ่ขึ้นมาไม่ได้ซื้อแบบ"มีดีดัก"มาจำหน่ายแล้ว เนื่องจากไม่ค่อยมีคนซื้อ เพราะซื้อคูปองประกันแบบ"ไม่มีดีดัก" คุ้มกว่าเยอะมากจริงๆครับ
*ค่าประกันชั้นหนึ่งแบบไม่ต้องมีความรับผิดชอบส่วนแรกที่เราจ่ายเพิ่ม ยังไม่รวมความเสียหายของ เบาะ ยางรถยนต์ (เช่น ยางแตก) และการสูญหายของกุญแจ
3.ประกันการโจรกรรมรถ หรือเรียกง่ายๆว่าประกันรถหาย (ไม่รวมในคูปอง)
กรณี รถหายผู้เช่าไม่ต้องรับผิดชอบค่าเสียหาย โดยต้องมีการรายงานเหตุการณ์ให้ตำรวจ มีการลงบันทึกประจำวัน และต้องมีการคืนกุญแจรถเช่าให้ผู้ให้บริการ การมีกุญแจคืนแสดงว่ารถหายไม่ได้เกิดจากความประมาทของผู้เช่าครับ
คูปองรถเช่าของเอวิส (Avis) บัดเจ็ท (Budget) และ เฮิร์ท (Hertz) จะไม่รวมประกันแบบนี้ครับ ต้องซื้อเพิ่ม
o เอวิส ซื้อเพิ่มราคา 171.2 บาท/วัน (รวม vat)
o บัดเจ็ท และ เฮิร์ท ซื้อเพิ่มราคา 53.5 บาท/วัน (รวม vat)
ส่วนคูปองรถเช่าของซิคท์ Sixt และ Hertz จะรวมประกันรถหายในคูปองแล้ว
ประกันรถหายไม่จำเป็นนักครับ ถ้าเราไม่ขับรถเข้าไปพื้นที่เสี่ยง เช่น ชายแดน เป็นต้น ถ้าไม่ได้ทำประกันรถหาย แล้วเกิดรถหายขึ้นมาจะเสียค่าปรับราวๆ 10,000 - 20,000 บาทเท่านั้น (ขึ้นอยู่กับรุ่นรถ) ผู้เช่าไม่ต้องถึงขั้นจ่ายเงินเป็นแสนเพื่อซื้อรถใหม่ครับ
4.ประกันค่ารักษาพยาบาลเมื่อเกิดอุบัติเหตุและค่าชดเชยกรณีเสียชีวิต (ไม่รวมในคูปอง)
เป็นประกันสำหรับค่ารักษาพยาบาลสำหรับตัวผู้เช่าและผู้ร่วมทางกรณีขับรถเช่าไปเกิดอุบัติเหตุ โดยมีความคุ้มครอง ค่ารักษาพยาบาล ทุพลภาพ และค่าชดเชยสำหรับทรัพย์สินที่เสียหายครับ
ไม่จำเป็นถึงที่สุดครับ แทบไม่มีลูกค้ารายไหนซื้อประกันค่ารักษาพยาบาลเพิ่มเลยครับ เพราะส่วนใหญ่มีประกันส่วนตัวกันอยู่แล้ว
การรับและคืนรถเช่ามี 2 แบบครับ
1.การรับคืนรถเองที่สาขา
ปกติ บริษัทรถเช่าจะมีสาขาอยู่ในสนามบินอยู่แล้ว คือมีเคาน์เตอร์อยู่ในสนามบินเลย หรือถ้าไม่มีเคาน์เตอร์ในสนามบิน ก็จะมีสาขาใกล้ๆสนามบินมากและบริษัทจะนำรถมาส่งให้ลูกค้าที่สนามบินฟรี
เพราะ ลูกค้าหลักของบริษัทรถเช่าคือ ลูกค้าที่ขึ้นลงเครื่องบิน ดังนั้นถ้าผู้เช่าจะรับคืนรถที่สนามบินก็สามารถรับคืนได้เลย ไม่คิดค่าบริการเพิ่ม แต่ต้องอยู่ในช่วงเวลาที่บริษัทรถเช่าให้บริการ ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่จะสามารถรับหรือคืนรถได้ดึกตามรอบขึ้นหรือลงของเครื่องบินได้ฟรี
รถ เช่าจะต้องรับและคืนรถที่สาขาเดิมเท่านั้น แต่บางจังวัดจะมีหลายสาขา เช่น กรุงเทพมีสาขาในตัวเมือง สาขาสนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเราสามารถคืนที่สาขาไหนก็ได้ ไม่มีคิดค่าบริการเพิ่ม เพราะเป็นจังหวัดเดียวกัน
การคืนรถเช่าต่างสาขาคนละจังหวัด จะมีคิดค่าบริการเพิ่ม ดังนี้
ราคาค่าบริการคืนรถต่างสาขา (ราคายังไม่รวมค่าเช่ารถ)
บัดเจ็ท (Budget)
o เช่ารถ 1 - 3 วัน ต่อเนื่อง ค่าบริการ 3,210 บาท (รวมภาษี)
o เช่ารถ 4 - 6 วัน ต่อเนื่อง ค่าบริการ 1,605 บาท (รวมภาษี)
o เช่ารถ 7 วัน ต่อเนื่อง ไม่คิดค่าบริการ
เอวิส (Avis) & ซิคท์ (Sixt)
o ต้องเช่ารถอย่างน้อย 3 วัน ต่อเนื่อง ค่าบริการขึ้นกับระยะทางต้องสอบถามทางเอวิส
o เช่า 7 วัน ต่อเนื่อง ไม่คิดค่าบริการ
เฮิร์ท (Hertz)
o ต้องเช่ารถอย่างน้อย 3 วัน ต่อเนื่อง ค่าบริการขึ้นกับระยะทางต้องสอบถามทางเฮิร์ต
o เช่า 5 วัน ต่อเนื่อง ไม่คิดค่าบริการ
สำหรับ คนที่ต้องการเช่ารถจากจังหวัดหนึ่ง เพื่อไปคืนรถที่สนามบินอีกจังหวัดหนึ่งจะเห็นว่าราคาที่ต้องจ่ายเพิ่มแพงมาก เนื่องจากบริษัทรถเช่าต้องมีค่าใช้จ่ายในการไปรับรถกลับมาคืนที่สาขาเดิม จึงต้องคิดค่าบริการในอัตราตามจำนวนวันเช่าหรือตามระยะทาง
2. การใช้บริการรับคืนรถ นอกสถานที่
กรณี ที่ลูกค้าต้องการจะรับหรือคืนรถเช่า นอกสถานที่ที่ไม่มีบริษัทไม่มีสาขาอยู่ เช่น ให้บริษัทรถเช่า นำรถไปส่ง หรือให้ไปรับรถคืนที่โรงแรม ท่าเรือ ท่ารถทัวร์ เป็นต้น จะมีเงื่อนไขเพิ่มเติม ดังนี้
กรณีเช่ารถ 1 - 2 วัน จะคิดค่าบริการเพิ่ม ค่าบริการขึ้นกับแต่ละบริษัทรถเช่า และขึ้นกับระยะทาง โดยค่าส่งรถเริ่มต้นเที่ยวละ 321 บาท
กรณี เช่ารถอย่างน้อย 3 วัน ต่อเนื่อง รับ หรือ ส่งรถฟรี ในระยะ 15 หรือ 30 กม ตามเงื่อนไขของแต่ละบริษัท หากเกินระยะทางที่กำหนดจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
l carrentcheap l
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น