สังเกตเห็นอะไรในโปรโมชั่นเช่ารถแต่ละเจ้ามั้ยครับ
*
เริ่มต้น
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติม call center
เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
แสดงว่าตัวเลขค่าเช่ารถที่โชว์มันมีอะไรมากกว่านั้น ไม่ใช่ค่าเช่ารถราคาเท่าที่เห็นแน่ๆ แล้วเงื่อนไขที่เป็นไปตามบริษัทกำหนด นี่กำหนดอะไรกันมาบ้างล่ะ จะรู้มั้ยเนี่ย
โปรฯส่วนใหญ่ต้องให้ผู้เช่าโทรติดต่อ call center พอติดต่อราคาก็จะไม่เท่ากับตัวเลขที่แสดง ราคาสูงขึ้น แต่ไหนๆโทรไปแล้วก็จองเลยละกัน จะได้ไม่ต้องวุ่นวายไปหารถเช่าที่อื่นอีก นี่เป็นจิตวิทยาของผู้เช่าที่ไม่ชอบเรื่องยุ่งยาก ทำให้แต่ละเจ้าจะเขียนโปรโมชั่นเป็นตัวเลขต่ำสุด แล้วให้ลูกค้าติดต่อไปครับ
l carrentcheap l จะมาเฉลยให้ฟัง ว่าหลังตัวเลขราคาในโปรโมชั่นมีอะไรซ่อนอยู่ ที่ต้องรู้และต้องตรวจสอบบ้าง
1. ราคาไม่รวมประกันชั้น 1
ประกันอุบัติเหตุจะเป็นประกันชั้น 3 (ต่ำสุดตามกฏหมายกำหนด) ถ้าเกิดอุบัติเหตุแล้วผู้เช่าเป็นฝ่ายผิด หรือ ไม่มีคู่กรณี หรือ ขับรถเช่าไปเกิดรอยขีดข่วน ผู้เช่าต้องรับผิดชอบค่าเสียหายกับตัวรถอยู่ แต่ถ้าเป็นฝ่ายถูกก็ไม่ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายครับ ประกันจะไปเรียกเก็บจากอีกฝ่ายแทน
ถ้าจะเช่าแบบมีประกันชั้น 1 ก็ต้องจ่ายเพิ่มอีก 214 บาทต่อวัน (รวมภาษี) ตัวเลขค่าเช่าก็จะเเพงขึ้นอีก
2. ราคาไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%
ตัวเลขค่าเช่ารถที่เห็นในโปรฯยังไม่รวมภาษีแน่นอน เพื่อให้ตัวเลขดูต่ำที่สุด อย่างน้อยค่าเช่ารถจริงๆจะต้องแพงกว่าตัวเลขที่เห็น เพราะภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7% คิดดูถ้าค่าเช่ารถเริ่มต้น 500 บาท จริงๆแล้วเท่ากับเริ่มต้นที 535 บาทต่อวันครับ
3. ราคาเป็น option ต่ำสุด
รถเป็นรุ่นเล็กสุด 1200 cc ส่วนใหญ่จะอนุญาตให้มีผู้ขับคนเดียว และคืนรถเลทไม่ได้
4. มีเงื่อนไขต่างๆที่เป็นข้อจำกัด
- มีขั้นต่ำในการเช่า เช่น ต้องเช่าอย่างน้อย 3 วัน
- ราคาโปรโมชั่นเฉพาะวันธรรมดา จันทร์ - พฤหัส เท่านั้น (วันที่คนใช้รถเช่าน้อย) ถ้าไปใช้วัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ค่าเช่าจะแพงขึ้น
- จองแล้วตัดเงินบัตรเครดิตเลย ยกเลิกรถไม่ได้
- เป็นโปรเฉพาะช่วงเวลาสั้นๆ ส่วนใหญ่เป็นช่วง Low season ที่คนเช่ารถน้อย ถ้าไม่ได้เช่ารถช่วงเวลานี้ก็อดไป
- โปรฯมีจำนวนจำกัด! เพราะมีงบทำการตลาดไม่มากนัก โทรไปโปรฯอาจจะหมดแล้ว เซงอีก
เงื่อนไขต่างๆด้านบนบางโปรฯก็ไม่ได้มีข้อจำกัดตามที่แจ้ง ขอให้ถามตรวจสอบตอนโทรติดต่อจองรถดูนะครับ เพราะบางที call center ก็ไม่ได้แจ้งเงื่อนไขครบทั้งหมดถ้าเราไม่ถาม
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
โปรโมชั่นแบบนี้เทียบกับการใช้ "คูปองรถเช่า" หรือ "Voucher รถเช่า" แล้ว คูปองรถเช่ามีข้อดีกว่าเยอะเลยครับ
1. ราคาคูปองเป็นราคารวมภาษีแล้ว
เป็นราคาเน็ทแล้ว ไม่ต้องไปจ่ายเพิ่มตอนรับรถใดๆอีก เช่น คูปองรถเช่าราคา 550 หรือ 670 บาท คือรวมภาษีแล้ว เช่ารถได้ในราคานี้เลยถ้าเป็นวันจันทร์ - พฤหัส
ส่วนศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ จ่ายเพิ่มอีก 300 บาทต่อวัน ตัวเลข 300 ก็รวมภาษีแล้ว (กรณีเช่ารถ ศุกร์ - เสาร์ - อาทิตย์ เป็นกรณีเดียวที่ต้องไปจ่ายเพิ่มตอนรับรถเช่า)
2. ค่าเช่าคงที่ตลอดทั้งปี
ไม่ว่าจะ Low season หรือช่วง High season ก็ราคาเดียวกันตลอดปี
3. มี Option พิเศษที่รวมอยู่ในคูปองจำนวนมาก
- คืนรถเลทได้ 4 ชั่วโมง
- มีผู้ขับได้ 2 คน
- เช่าตั้งแต่ 3 วัน ส่งรถเช่าฟรีในระยะ 15 กิโลเมตรสำหรับเอวิส (Avis) และส่งฟรีในระยะ 30 กิโลเมตรสำหรับบัดเจ็ท (Budget)
- ยกเลิกรถก่อนใช้รถ 24 ชั่วโมงได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
4. คูปองมีตลอดทั้งปี (ไม่มีจำกัดช่วงเวลา)
โปรโมชั่นการใช้คูปองเช่ารถ มีตลอดทั้งปี และมีจำนวน"ไม่จำกัด" จะต่างกับโปรฯเช่ารถส่วนใหญ่ที่มีจำนวนจำกัด และมีบางช่วงเวลาเท่านนั้น
ข้อดีของการใช้คูปองเช่ารถมากมายจริงๆครับ อยากให้ลองใช้คูปองเช่ารถดูครับ แล้วจะพบว่า เช่ารถถูกจริง แต่ได้รถใหม่เหมือนจองแบบแพงๆ แล้วจะจ่ายแพงทำไมครับ :)
l carrentcheap l
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น