1.ไม่จองรถล่วงหน้า (สาเหตุอันดับ 1!)
จะใช้รถในวันสองวันนี้ แต่ยังไม่จองรถ รับประกันแพงชัวร์! ปัญหาที่จะเกิดขึ้น คือรถจะเต็ม ทำให้เราต้องใช้รถรุ่นใหญ่ขึ้น ซึ่งมีค่าเช่าแพงกว่า อีกปัญหา คือ การส่งคูปองตัวจริงด้วยไปรษณีย์ EMS จะส่งไปไม่ทัน ต้องเดินทางมารับคูปองด้วยตนเอง เสียทั้งค่าเดินทางและเสียเวลา หรือต้องใช้บริการแมสเซนเจอร์มีค่าส่งสูงถึง 100 – 300 บาท ยิ่งหากไม่จองรถล่วงหน้า แล้วดุ่มๆเข้าไปเช่ารถที่เคาเตอร์ที่สนามบิน โดนหนักสุด ค่าเช่าแพงกว่าการจองล่วงหน้าเกือบ 2 เท่าครับ
การจองล่วงหน้ามีข้อดีเยอะมากครับ หากจองล่วงหน้าอย่างน้อย 10 วันในช่วงปกติ และล่วงหน้า 30 วันในช่วง peak period แล้วผู้ให้บริการไม่มีรถรุ่นที่เราจะใช้ จะได้อัปเกรดฟรีเป็นรถรุ่นที่สูงขึ้น คุ้มสุดๆ ^__^ ถ้าแผนเที่ยวเปลี่ยนแปลงจะยกเลิกการจองรถก็โทรแจ้งยกเลิกกับ call center ได้ง่ายมากเลยครับ ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ หากยกเลิกก่อนใช้รถ 24 ชั่วโมง
2. ไม่เติมน้ำมันเต็มถังตอนคืนรถเช่า
ผู้ให้บริการรถเช่าจะชาร์จค่าน้ำมันแพงมากโดยประมาณจากขีดน้ำมันที่ขาดไป การเติมที่ปั๊มตามปกติจะขีดละประมาณ 200 บาท (ราคาแล้วแต่รุ่นรถ) แต่ผู้ให้บริการจะชาร์จค่าน้ำมันสูงกว่าปกติราวๆ 2 เท่าคือ 400 บาท!
แนะนำว่าตอนเช่ารถให้ถามว่า ปั๊มน้ำมันใกล้ๆแถวนี้อยู่ตรงไหน บางครั้งปั๊มน้ำมันอยู่ใกล้มาก แต่เราเลี้ยวไปคนละด้านมอง ไม่เห็นก็มีครับ ตอนขากลับก็เผื่อเวลาเติมน้ำมันสักหน่อย มีหลายๆคนไม่ได้เผื่อเวลาไว้ มาเฉียดฉิวกับเวลา check-in ทำให้ไม่มีเวลาไปเติม ถูกชาร์จค่าน้ำมันอ่วม
3. คืนรถต่างสาขาคนละจังหวัด
แบบนี้โดนชาร์จจัดหนักมากครับ การเช่ารถ 1-3 วัน โดนชาร์จค่าคืนต่างสาขา 3,210 บาท (ราคารวม vat 7%) การเช่า 4-6 วันโดนชาร์จ 1,605 บาท (ถ้าเช่ามากกว่า 7 วัน จะไม่มีชาร์จ) แพงสุดๆ! ไม่อยากโดนจัดหนักอย่างนี้ ควรจัดแผนเที่ยวหรือจองตั๋วเครื่องบินไป-กลับในจังหวัดเดียวกัน
4. ทำประกันในส่วนที่ไม่จำเป็น
ต้องศึกษาชนิดของประกันให้ดีครับ เพราะ call center มักจะพยายามพ่วงการขายประกันที่ไม่จำเป็นนัก
ประกันรถเช่าทั้งหมดมีแค่ 3 แบบครับ คือ ประกันอุบัติเหตุกับตัวรถ / ประกันรถหาย / ประกันค่ารักษาพยาบาลผู้ขับขี่
แนะนำให้ทำแค่ประกันอุบัติเหตุกับตัวรถครับ (เทียบเท่าคูปองชนิดไม่มี deduct) ส่วนประกันอีก 2 ตัวที่เหลือไม่จำเป็นนัก เพราะถ้ารถหาย โดยไม่ได้ทำประกันจะจ่ายสูงสุดแค่ 20,000 บาท เท่านั้น ไม่ถึงกับต้องจ่ายหลายแสนเพื่อซื้อรถใหม่ชดใช้ครับ
ส่วนประกันค่ารักษาพยาบาลผู้ขับขี่ ผู้เช่าบางคนมีประกันอุบัติเหตุส่วนตัวอยู่แล้ว ไม่ต้องทำประกันให้ซ้ำซ้อน อีกทั้งการเกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่มักเป็นการเฉี่ยวชนมากกว่า ไม่ใช่อุบัติเหตุรุนแรงถึงขั้นต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาลครับ
5. ไม่คืนรถตรงเวลา
ถ้าคืนรถเลทเกิน 4 ชั่วโมง จะถูกชาร์จค่าเช่าอีก 1 วันในราคาเทียบเท่าไม่จองรถล่วงหน้า (walk-in) เช่น ถ้าเครื่อง 1500 cc ค่าเช่าด้วยคูปองประมาณ 750 บาท จะถูกชาร์จที่ราคา 1,400 – 1,500 บาท ซวยไปเลย T-T
แต่ถ้าคืนรถช้าจากที่แจ้ง call center แต่ไม่เกิน 4 ชั่วโมงตามกำหนดของคูปอง จะไม่ถูกชาร์จครับ เช่น รับรถเช่า 8 โมงเช้า เราแจ้งว่าจะคืน 9 โมง แต่มาคืนตอน 10 โมง จะไม่เป็นไร เพราะการใช้คูปองคืนเลทได้ 4 ชม คือคืนรถได้ช้าสุดตอนเที่ยงตรงครับ
l carrentcheap l
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น