แม้ใช้ความระมัดระวังในการเดินทางด้วยรถเช่าอย่างดีแล้ว แต่ก็อาจเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นได้เสมอจากหลายเหตุผล หลายเหตุการณ์ หากเรารู้วิธีการรับมือและแก้ไขที่ถูกต้องจะช่วยลดความเสียหายจากอุบัติเหตุลงได้มากครับ
สำหรับการเช่ารถขับด้วย"คูปองรถเช่า" เมื่อแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆได้แล้ว รถเช่ามีความเสียหายจนไม่สามารถขับขี่ได้ สามารถโทรหา call center หรือเบอร์ฉุกเฉินที่ติดอยู่บนกระจกหน้ารถ เพื่อให้มารับรถและเปลี่ยนรถเช่าคันใหม่ได้ครับ
ส่วนค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับชนิดประกันภัยที่เราซื้อ ถ้าเป็นแบบ no deduct จะไม่ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายของตัวรถ (ยกเว้นยางแตก) แต่ถ้าเป็นประกันภัยแบบ มี deduct จะต้องรับผิดชอบตามค่าเสียหายที่บริษัทรถเช่าแจ้ง แต่จ่ายสูงสุดไม่เกิน 8,000 - 10,000 บาทสำหรับรถรุ่นไม่เกิน 1500 cc และจ่ายสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท สำหรับรถรุ่นที่สูงกว่า 1500 cc ครับ
เมื่อยางระเบิดหรือแตกกระทันหัน ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงความเร็วใด
o ต้องจับพวงมาลัยให้มั่นคง
o พยายามรั้งพวงมาลัยไว้ให้ตรงทิศทาง อย่ากระชากเด็ดขาด
o ไม่ตกใจกดเบรคอย่างกระทันหัน เพราะรถยนต์อาจหมุนปัดเป๋เสียการทรงตัวได้ ให้ถอนคันเร่ง การลดความเร็ว
o สามารถใช้เบรคได้เพียงเบาๆและต้องเหยียบ สลับกับการปล่อย เพื่อไม่ให้น้ำหนักถ่ายลงด้านหน้ามากเกินไป
o ถ้ายางที่แตกไม่ใช่ล้อขับเคลื่อน ก็สามารถใช้เกียร์ ช่วยในการลดความเร็วได้
หากต้องการเปลี่ยนยาง ควรดึงเบรคมือก่อนการขึ้นแม่แรง ป้องกันรถยนต์ไหล แต่ถ้ามีที่สูบลมติดรถยนต์ไว้ และยางที่แบนไม่ได้รั่วเป็นรูขนาดใหญ่ก็สามารถสูบลมยางให้แข็งกว่าปกติสัก 5-10 ปอนด์/ตารางนิ้ว และค่อยๆขับต่อไปจนถึงร้านเปลี่ยนยางก็ได้
o ตั้งสติให้มั่นคง เมื่อเหยียบเเป้นเบรคลงไปแล้วลึกต่ำกว่าปกติ ต้องเหยียบซ้ำแรงๆและถี่ๆ เพื่อใช้แรงดันในวงจรเบรคที่เหลืออยู่ ผ้าเบรคจะได้สร้างแรงเสียดทาน ขึ้นมาบ้าง
o พร้อมกับการลดเกียร์ต่ำครั้งละ 1 เกียร์ จนกว่าจะถึงเกียร์ต่ำสุด อย่าลดทีเดียวจนสุด
o ต่อไปค่อยใช้เบรกมือช่วยลดความเร็ว โดยการกดปุ่มล็อคค้างไว้ให้สุด ดึงขึ้นแล้วปล่อยสลับกันไป ถ้ากดค้างไว้จะเบรคจนล้อล็อค เป็นอันตรายได้
o ถ้าคุณอยู่บนพื้นที่ลาดชันเช่นเนินเขาเมื่อทำขั้นตอนทุกข้อแล้ว ให้พยายามหาสิ่งกีดขวางเช่นกันชนขอบถนนด้านในหรือวัตถุอะไรก็ตามเพื่อวิ่งเข้าชนให้รถหยุด โดยการลดความเร็วตามวิธีข้างต้นจะทำให้รถมีความเร็วลดลงจนไม่ส่งผลเสียหายต่อรถมากเหมือนกับการวิ่งเข้าชนตรงๆโดยไม่ทำอะไรเลยครับ
o ควรลดความเร็ว แต่ไม่ควรเบรกอย่างรุนแรงหรือหักหลบทันที เพราะอาจทำให้รถยนต์พลิกคว่ำได้
o ไม่ควรหักหลบไปในช่องทางที่มีรถแล่นสวนมา ให้ตัดสินใจชนสัตว์เลย การหักหลบจะเป็นอันตรายกับผู้ขับขี่มากกว่า
o หากไม่เร่งรีบ ควรปล่อยให้สัตว์เหล่านั้นเดินจนพ้นจากถนน ไม่ควรบีบแตรไล่ เพราะอาจทำให้ตกใจและหันมาทำอันตรายได้
o การเเซงควรเลี้ยวไปทางด้านหลังของสัตว์ เพราะการตัดหน้า จะทำให้สัตว์ตกใจและเตลิด อันตรายต่อรถยนต์ในช่องทางอื่น
เมื่อรถไหลออกนอกเส้นทาง อาจเพราะการหักหลบสิ่งกีดขวางอย่างกระทันหัน หรือถนนลื่น เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ ควรตั้งสติให้มั่น ไม่ควรเหยียบเบรคแรง เพราะอาจทำให้ล้อล็อค หรือลื่นไถลจนเสียการทรงตัว
วิธีที่ถูกต้อง ควรลดความเร็วด้วยการแตะเบรคแล้วปล่อย พร้อมกับการลดจังหวะเกียร์ เพื่อใช้เครื่องยนต์ช่วยในการชะลอความเร็วอีกเล็กน้อย นอกจากนั้นสายตายังต้องมองทางไปข้างหน้า เพื่อหลบสิ่งกีดขวาง
ถ้าเป็นไปได้ไม่ควรแล่นทับ เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายหรือความเสียหายกับยางรถได้
ขั้นแรกควรลดความเร็ว หากช่องทางทั้งซ้าย-ขวาไม่มีรถยนต์แล่นตามหลังมา ให้หักหลบโดยพยายามเบี่ยงให้น้อยที่สุด เพราะการหักหลบมากๆในขณะที่ขับเร็ว รถยนต์อาจหมุนหรือปัดเป๋ได้
หากเลี่ยงไม่ได้หลังการทับหรือชน ควรจอดรถและตรวจสอบชิ้นส่วนใต้ท้องรถว่ามีความเสียหายเกิดขึ้นหรือไม่ เช่น คันชัก คันส่ง ท่อส่ง เชื้อเพลิง ถังน้ำมัน ยาง เป็นต้น
เมื่อยางระเบิดหรือแตกกระทันหัน ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงความเร็วใด
o ต้องจับพวงมาลัยให้มั่นคง
o พยายามรั้งพวงมาลัยไว้ให้ตรงทิศทาง อย่ากระชากเด็ดขาด
o ไม่ตกใจกดเบรคอย่างกระทันหัน เพราะรถยนต์อาจหมุนปัดเป๋เสียการทรงตัวได้ ให้ถอนคันเร่ง การลดความเร็ว
o สามารถใช้เบรคได้เพียงเบาๆและต้องเหยียบ สลับกับการปล่อย เพื่อไม่ให้น้ำหนักถ่ายลงด้านหน้ามากเกินไป
o ถ้ายางที่แตกไม่ใช่ล้อขับเคลื่อน ก็สามารถใช้เกียร์ ช่วยในการลดความเร็วได้
หากต้องการเปลี่ยนยาง ควรดึงเบรคมือก่อนการขึ้นแม่แรง ป้องกันรถยนต์ไหล แต่ถ้ามีที่สูบลมติดรถยนต์ไว้ และยางที่แบนไม่ได้รั่วเป็นรูขนาดใหญ่ก็สามารถสูบลมยางให้แข็งกว่าปกติสัก 5-10 ปอนด์/ตารางนิ้ว และค่อยๆขับต่อไปจนถึงร้านเปลี่ยนยางก็ได้
o ตั้งสติให้มั่นคง เมื่อเหยียบเเป้นเบรคลงไปแล้วลึกต่ำกว่าปกติ ต้องเหยียบซ้ำแรงๆและถี่ๆ เพื่อใช้แรงดันในวงจรเบรคที่เหลืออยู่ ผ้าเบรคจะได้สร้างแรงเสียดทาน ขึ้นมาบ้าง
o พร้อมกับการลดเกียร์ต่ำครั้งละ 1 เกียร์ จนกว่าจะถึงเกียร์ต่ำสุด อย่าลดทีเดียวจนสุด
o ต่อไปค่อยใช้เบรกมือช่วยลดความเร็ว โดยการกดปุ่มล็อคค้างไว้ให้สุด ดึงขึ้นแล้วปล่อยสลับกันไป ถ้ากดค้างไว้จะเบรคจนล้อล็อค เป็นอันตรายได้
o ถ้าคุณอยู่บนพื้นที่ลาดชันเช่นเนินเขาเมื่อทำขั้นตอนทุกข้อแล้ว ให้พยายามหาสิ่งกีดขวางเช่นกันชนขอบถนนด้านในหรือวัตถุอะไรก็ตามเพื่อวิ่งเข้าชนให้รถหยุด โดยการลดความเร็วตามวิธีข้างต้นจะทำให้รถมีความเร็วลดลงจนไม่ส่งผลเสียหายต่อรถมากเหมือนกับการวิ่งเข้าชนตรงๆโดยไม่ทำอะไรเลยครับ
o ควรลดความเร็ว แต่ไม่ควรเบรกอย่างรุนแรงหรือหักหลบทันที เพราะอาจทำให้รถยนต์พลิกคว่ำได้
o ไม่ควรหักหลบไปในช่องทางที่มีรถแล่นสวนมา ให้ตัดสินใจชนสัตว์เลย การหักหลบจะเป็นอันตรายกับผู้ขับขี่มากกว่า
o หากไม่เร่งรีบ ควรปล่อยให้สัตว์เหล่านั้นเดินจนพ้นจากถนน ไม่ควรบีบแตรไล่ เพราะอาจทำให้ตกใจและหันมาทำอันตรายได้
o การเเซงควรเลี้ยวไปทางด้านหลังของสัตว์ เพราะการตัดหน้า จะทำให้สัตว์ตกใจและเตลิด อันตรายต่อรถยนต์ในช่องทางอื่น
เมื่อรถไหลออกนอกเส้นทาง อาจเพราะการหักหลบสิ่งกีดขวางอย่างกระทันหัน หรือถนนลื่น เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ ควรตั้งสติให้มั่น ไม่ควรเหยียบเบรคแรง เพราะอาจทำให้ล้อล็อค หรือลื่นไถลจนเสียการทรงตัว
วิธีที่ถูกต้อง ควรลดความเร็วด้วยการแตะเบรคแล้วปล่อย พร้อมกับการลดจังหวะเกียร์ เพื่อใช้เครื่องยนต์ช่วยในการชะลอความเร็วอีกเล็กน้อย นอกจากนั้นสายตายังต้องมองทางไปข้างหน้า เพื่อหลบสิ่งกีดขวาง
ถ้าเป็นไปได้ไม่ควรแล่นทับ เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายหรือความเสียหายกับยางรถได้
ขั้นแรกควรลดความเร็ว หากช่องทางทั้งซ้าย-ขวาไม่มีรถยนต์แล่นตามหลังมา ให้หักหลบโดยพยายามเบี่ยงให้น้อยที่สุด เพราะการหักหลบมากๆในขณะที่ขับเร็ว รถยนต์อาจหมุนหรือปัดเป๋ได้
หากเลี่ยงไม่ได้หลังการทับหรือชน ควรจอดรถและตรวจสอบชิ้นส่วนใต้ท้องรถว่ามีความเสียหายเกิดขึ้นหรือไม่ เช่น คันชัก คันส่ง ท่อส่ง เชื้อเพลิง ถังน้ำมัน ยาง เป็นต้น
ถ้าไม่ได้เกิดจากการรั่วซึมผิดปกติ แต่เกิดจากการหลงลืมเติมน้ำหม้อน้ำก็สามารถเติมน้ำเข้าไปให้เต็มได้ เพราะถ้ามีการรั่ว เติมลงไปก็รั่วออกมาอีก
การเติมน้ำต้องมีเทคนิคและใจเย็น จอดรถยนต์หลบในที่ปลอดภัย ดับเครื่องยนต์ รอให้เครื่องยนต์เย็นลงบ้าง หาผ้าหนาๆและผืนกว้างพอสมควร เช่น ผ้ายางรองพื้นในรถยนต์ คลุมฝาหม้อน้ำให้มิด แล้วบิดออกเล็กน้อยก่อน เพื่อให้แรงดันภายในคลายตัวออกบ้าง เมื่อแรงดันคลายตัวออกมามากในช่วงระยะเวลาประมาณ 2-3 นาที ค่อยๆเปิดฝาหม้อน้ำต่อ
ระวังไอหรือน้ำร้อนพุ่งขึ้นมา ต้องคลุมผ้าผืนหนาไว้ให้มิดชิดมากๆ อย่ารีบเติมน้ำลงไปในทันที ต้องรถให้เครื่องยนต์คลายความร้อน อาจต้องรอถึงกว่า 20-30 นาที การเติมน้ำต้องเติมครั้งละนิด ไม่ควรเกินครึ่งลิตร แล้วทิ้งช่วงสัก 5 นาที เพื่อให้น้ำที่เติมดึงความร้อนกระจายกันให้ทั่ว เพราะโลหะที่ร้อนจัด เมื่อถูกน้ำเย็นทันที จะหดตัวลงอย่างรวดเร็ว จนร้าว หรือเสียหายได้
* ทำไมถึงไม่ควรดับเครื่องเมื่อคันเร่งค้างทั้งๆที่เป็นการตัดกำลังเครื่องยนต์ที่ชัวร์มาก?
– การดับเครื่องยนต์ไม่ได้ตัดแค่กำลังเครื่อง แต่ยังส่งผลให้ระบบผ่อนแรงพวงมาลัยและระบบผ่อนแรงเบรคหยุดการทำงานตามไปด้วย
พวงมาลัยจะหนักขนาดไหน? ลองสตาร์ทรถ หมุนพวงมาลัยเล่น หมุนต่อไปเรื่อยๆอย่าหยุด ไปๆมาๆ จากนั้นดับเครื่องทเห็นมั้ยครับว่ามันหน่วงมือขนาดไหน
ส่วนเบรกจะหนักขนาดไหน? ก็ลองดูได้ครับหาที่โล่ง ไม่เอาซอยนะ ในซอยบางทีมีเด็กวิ่งตัดหน้า จะซวยฟรี หาที่โล่งๆ เร่งรถแล้วดับเครื่อง แล้วลองพยายามเบรกดูสิครับ หนักไหม
รถบางรุ่น ถ้าหมุนกุญแจกลับ พวงมาลัยจะล็อค หมุนไม่ได้ บางรุ่นต้องดึงกุญแจออกจึงจะล็อค ในนาทีวิกฤติ มีเวลามาลองมั้ย? รถบางคัน และหลายคันสมัยนี้ที่ใช้ปุ่มสตาร์ทคุณกดปิด Off ตอนวิ่งอยู่ รถไม่ดับให้ก็มี บางรุ่นต้องกดค้าง 3 วินาทีถึงจะดับ ถึงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อจะคิดได้หรือไม่?
หากกระจกหน้าเป็นแบบลามิเนต 2 ชั้น ซึ่งมีฟิล์มเหนียวคั่นกลาง เพราะจะไม่ร่วงเป็นเม็ดข้าวโพดเหมือนกระจกแบบเทมเปอร์ชั้นเดียว โดยแผ่นฟิล์มเหนียวตรงกลางจะเป็นตัวยึดไม่ให้เศษกระจกแยกออกจากกัน จึงทำให้พอมองทะลุผ่านและขับต่อไปได้ไกลจนถึงศูนย์ซ่อม
ถ้าเป็นกระจกแบบเทมเปอร์ จะแตกรวดเร็วมาก เพียงจุดแตกเล็กๆทำให้เนื้อกระจกสูญเสียความแข็งแรง และเกิดรอยร้าวทั่วแผ่นเป็นฝ้าขาวจนไม่สามารถมองผ่านได้ ผู้ขับจึงต้องตั้งสติให้มั่นและค่อยๆชะลอความเร็ว แล้วเบี่ยงรถยนต์เข้าสู่ไหลทาง ถ้าเหลือกระจกติดที่ขอบให้ใช้ไม้หุ้มผ้าหนาๆหรือกระดาษหนังสือพิมพ์ในการกระแทกเศษกระจกที่ยังติดอยู่บนขอบออกให้หมด โดยควรหากระดาษหรือฝ้ารองบนแผงหน้าปัด และฝากระโปรงหน้าเพื่อป้องกันเศษกระจก หล่นลงในช่องแอร์หรือขูดขีดสีตัวถัง
ขณะที่ขับรถยนต์ที่ไม่มีกระจกบังลมหน้า ควรปิดกระจกทุกบาน การเปิดกระจกหน้าต่างทำให้ลมมาปะทะคน และทำให้รถยนต์มีการทรงตัวไม่ดีจากลมที่ไหลผ่าน ถ้ามีแผ่นกันแดด หรือแว่นสายตา ก็ควรนำมาใส่ เพื่อป้องกันฝุ่นละออง และเศษกระจกที่อาจค้างอยู่
การเติมน้ำต้องมีเทคนิคและใจเย็น จอดรถยนต์หลบในที่ปลอดภัย ดับเครื่องยนต์ รอให้เครื่องยนต์เย็นลงบ้าง หาผ้าหนาๆและผืนกว้างพอสมควร เช่น ผ้ายางรองพื้นในรถยนต์ คลุมฝาหม้อน้ำให้มิด แล้วบิดออกเล็กน้อยก่อน เพื่อให้แรงดันภายในคลายตัวออกบ้าง เมื่อแรงดันคลายตัวออกมามากในช่วงระยะเวลาประมาณ 2-3 นาที ค่อยๆเปิดฝาหม้อน้ำต่อ
ระวังไอหรือน้ำร้อนพุ่งขึ้นมา ต้องคลุมผ้าผืนหนาไว้ให้มิดชิดมากๆ อย่ารีบเติมน้ำลงไปในทันที ต้องรถให้เครื่องยนต์คลายความร้อน อาจต้องรอถึงกว่า 20-30 นาที การเติมน้ำต้องเติมครั้งละนิด ไม่ควรเกินครึ่งลิตร แล้วทิ้งช่วงสัก 5 นาที เพื่อให้น้ำที่เติมดึงความร้อนกระจายกันให้ทั่ว เพราะโลหะที่ร้อนจัด เมื่อถูกน้ำเย็นทันที จะหดตัวลงอย่างรวดเร็ว จนร้าว หรือเสียหายได้
คันเร่งค้าง ให้จำง่ายๆ แค่ 3 อย่าง
1. อย่าดับเครื่อง (โว้ย)
2. เข้าเกียร์ N (เกียร์ว่าง) ถ้าเป็นรถเกียร์ธรรมดาก็เหยียบคลัตช์แล้วปลดมาเกียร์ว่าง
3. เบรกโดยคำนึงถึงความปลอดภัย ถ้ามีระยะเหลือๆก็ไม่ต้องเบรกให้ตัวโก่ง
* ทำไมถึงไม่ควรดับเครื่องเมื่อคันเร่งค้างทั้งๆที่เป็นการตัดกำลังเครื่องยนต์ที่ชัวร์มาก?
– การดับเครื่องยนต์ไม่ได้ตัดแค่กำลังเครื่อง แต่ยังส่งผลให้ระบบผ่อนแรงพวงมาลัยและระบบผ่อนแรงเบรคหยุดการทำงานตามไปด้วย
พวงมาลัยจะหนักขนาดไหน? ลองสตาร์ทรถ หมุนพวงมาลัยเล่น หมุนต่อไปเรื่อยๆอย่าหยุด ไปๆมาๆ จากนั้นดับเครื่องทเห็นมั้ยครับว่ามันหน่วงมือขนาดไหน
ส่วนเบรกจะหนักขนาดไหน? ก็ลองดูได้ครับหาที่โล่ง ไม่เอาซอยนะ ในซอยบางทีมีเด็กวิ่งตัดหน้า จะซวยฟรี หาที่โล่งๆ เร่งรถแล้วดับเครื่อง แล้วลองพยายามเบรกดูสิครับ หนักไหม
รถบางรุ่น ถ้าหมุนกุญแจกลับ พวงมาลัยจะล็อค หมุนไม่ได้ บางรุ่นต้องดึงกุญแจออกจึงจะล็อค ในนาทีวิกฤติ มีเวลามาลองมั้ย? รถบางคัน และหลายคันสมัยนี้ที่ใช้ปุ่มสตาร์ทคุณกดปิด Off ตอนวิ่งอยู่ รถไม่ดับให้ก็มี บางรุ่นต้องกดค้าง 3 วินาทีถึงจะดับ ถึงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อจะคิดได้หรือไม่?
หากกระจกหน้าเป็นแบบลามิเนต 2 ชั้น ซึ่งมีฟิล์มเหนียวคั่นกลาง เพราะจะไม่ร่วงเป็นเม็ดข้าวโพดเหมือนกระจกแบบเทมเปอร์ชั้นเดียว โดยแผ่นฟิล์มเหนียวตรงกลางจะเป็นตัวยึดไม่ให้เศษกระจกแยกออกจากกัน จึงทำให้พอมองทะลุผ่านและขับต่อไปได้ไกลจนถึงศูนย์ซ่อม
ถ้าเป็นกระจกแบบเทมเปอร์ จะแตกรวดเร็วมาก เพียงจุดแตกเล็กๆทำให้เนื้อกระจกสูญเสียความแข็งแรง และเกิดรอยร้าวทั่วแผ่นเป็นฝ้าขาวจนไม่สามารถมองผ่านได้ ผู้ขับจึงต้องตั้งสติให้มั่นและค่อยๆชะลอความเร็ว แล้วเบี่ยงรถยนต์เข้าสู่ไหลทาง ถ้าเหลือกระจกติดที่ขอบให้ใช้ไม้หุ้มผ้าหนาๆหรือกระดาษหนังสือพิมพ์ในการกระแทกเศษกระจกที่ยังติดอยู่บนขอบออกให้หมด โดยควรหากระดาษหรือฝ้ารองบนแผงหน้าปัด และฝากระโปรงหน้าเพื่อป้องกันเศษกระจก หล่นลงในช่องแอร์หรือขูดขีดสีตัวถัง
ขณะที่ขับรถยนต์ที่ไม่มีกระจกบังลมหน้า ควรปิดกระจกทุกบาน การเปิดกระจกหน้าต่างทำให้ลมมาปะทะคน และทำให้รถยนต์มีการทรงตัวไม่ดีจากลมที่ไหลผ่าน ถ้ามีแผ่นกันแดด หรือแว่นสายตา ก็ควรนำมาใส่ เพื่อป้องกันฝุ่นละออง และเศษกระจกที่อาจค้างอยู่
เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นบ่อย โดยเฉพาะในการขับรถบนถนน 2 เลนสวนกัน
o ขั้นแรกควรลดความเร็วลง แต่อย่ามากเกินไปจนรถที่ตามมาด้านหลังชนได้
o มองกระจกด้านซ้าย เพื่อหาหนทางหนีทีไล่ พร้อมกระพริบไฟสูง และบีบแตรเตือน และเบี่ยงออกทางเลนซ้าย
o ไม่ควรหลบข้ามเลยไปในช่องทางของรถยนต์ที่แล่นสวนมา เพราะบ่อยครั้ง คนขับเพิ่งรู้สึกตัว แล้วหักหลบเข้ามาจะทำให้เกิดการชนกันได้
ด้วยความปรารถนาดี l carrentcheap l
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น