คูปองสำหรับเช่ารถของ Budget / AVIS /Hertz / SIXT

สินค้าของร้าน

- 0 ความคิดเห็น

สามารถ Click ที่รูปเพื่อดูขนาดใหญ่ครับ




 - ราคาในตารางเป็นราคารวม Vat 7% แล้ว

- ประกันชั้น 1 แบบ No deduct = เกิดอุบัติเหตุไม่ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายกับตัวรถทุกกรณี ไม่ว่าผู้เช่าจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิด (ยกเว้นรถหาย) แต่ละเจ้าจะรวมประกันยางรถ (ยางแตก) ไม่เหมือนกัน โดย Avis และ ASAP ไม่ประกันยางรถและกระจก, Budget ประกันยางรถ 1 เส้น ไม่ประกันกระจกรถ

- ตอนรับรถเช่าต้องรูดบัตรเครดิตกัก"วงเงิน" เพื่อมัดจำ 
8,000 บาทสำหรับ Avis 
5,000 บาทสำหรับ Budget
6,000 บาท สำหรับ ASAP
(ไม่สามารถใช้บัตรเดบิตและมัดจำเป็นเงินสดได้)

- ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนอกจากค่าคูปอง เช่นชาร์จใช้รถวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ให้จ่ายที่บริษัทรถเช่าโดยตรงเมื่อรับรถครับ 

- ประกันรถหายไม่ต้องทำก็ได้ ถ้าไม่ได้ขับรถเช่าไปในสถานที่เสี่ยง (ไม่บังคับทำ ผู้เช่าส่วนใหญ่จะไม่ทำกันครับ) 

- ช่วง Peak (ช่วงวันหยุดที่มีคนเที่ยวจำนวนมาก) 

AVIS (เอวิส)
5-17 เมษายน, 1-12 ธันวาคม และ 22 ธันวาคม - 5 มกราคม

BUDGET (บัดเจ็ท)
2-18 เมษายน, 1-12 ธันวาคม และ 22 ธันวาคม - 4 มกราคม 

ASAP (เอแซป)
1-16 เมษายน , 1-10 ธันวาคม และ 24 ธันวาคม - 8 มกราคม


- ขั้นตอนการสั่งซื้อคูปองรถเช่า > Click

- สาขารถเช่าของเจ้าต่างๆตาม > link



l carrentcheap l



[Continue reading...]

การรับประกันสินค้า

- 0 ความคิดเห็น

เนื่องจากการสั่งซื้อคูปองรถเช่าเพื่อเที่ยวสักทริปนึง ต้องใช้เงินหลักพันบาททีเดียว เพื่อความสบายใจในการสั่งซื้อ ทางร้านจึงมีการรับประกันสินค้าให้ด้วย ตามนี้ครับ



- คูปองส่งไปแล้วลูกค้าไม่ได้รับ ของหาย

การรับประกัน : ทางร้านจะส่งใบใหม่ไปให้ทันที พร้อมกับติดตามของกับไปรษณีย์เองครับ 

- ได้รับคูปอง ไม่ทันเวลาใช้งาน

การรับประกัน : ทางร้านยินดีรับผิดชอบโดยการส่งด้วยวิธีอื่น เพื่อให้คูปองไปถึงทัน เช่น messenger, รถทัวร์นครชัยแอร์ หรือ สยามเฟริส (ส่งให้ฟรี)
  
ถ้าหาวิธีส่งไม่ทันจริงๆ จะให้ลูกค้าไปรับรถก่อนแล้วจ่ายเงินในราคาเต็ม (เพราะไม่มีคูปองไปยื่น) แล้วทางร้านจะจ่ายเงินส่วนต่างเทียบกับราคาที่ใช้คูปองให้ลูกค้าครับ เช่น เช่ารถด้วยคูปองต้องจ่ายวันละ 800 บาท แต่เช่าจริงจ่ายวันละ 1500 บาท ก็จะจ่ายชดเชยให้ 700 บาท เป็นต้น





หากลูกค้าซื้อคูปองไปแล้วไม่ได้ใช้งาน อาจด้วยสาเหตุอะไรก็แล้วแต่ เช่น ยกเลิกแผนเที่ยวกระทันหัน เป็นต้น ทางร้านรับคืนคูปองทุกกรณีในราคาเต็มเท่าที่ซื้อไป โดยมีข้อแม้เพียงข้อเดียวคือ คูปองต้องมีอายุเหลือมากกว่า 1 เดือนครับ 

ปกติคูปองที่ส่งไปจะมีอายุ 9 - 11 เดือน ถ้าไม่ได้ใช้ในทริปนั้น ควรติดต่อขายคืนได้เลย ไม่ต้องเกรงใจครับ ยินดีรับคืนด้วยความเต็มใจ

ขั้นตอนการคืนสินค้า : แจ้งทางไลด์ที่เคยติดต่อไว้ว่าจะคืนสินค้า ลูกค้าต้องส่งคูปองกลับให้ทางร้านก่อน พอทางร้านได้รับของก็จะโอนเงินคืนให้ครับ



l carrentcheap l


[Continue reading...]

3 ขั้นตอนง่ายๆกับการใช้คูปองในการเช่ารถ

- 0 ความคิดเห็น


1. ติดต่อซื้อคูปองได้ 3 ช่องทางครับ


โทรศัพท์ : วีระ > 089-456-5782 หรือ กานต์ > 089-549-8811

Line ID : @car_coupon หรือ @carrentcheap 

(อย่าลืมใส่ @ ด้วยนะครับ)

Facebook : คูปองเช่ารถ

E-mail : carrentcheap1@gmail.com

สั่งซื้อสินค้าที่ต้องการและสรุปราคา ทางร้านจะส่งเลขคูปองให้ทาง LINE ครับ ซึ่งสามารถโทรจองรถโดยใช้เลขคูปองที่ส่งให้ได้เลย หลังจองรถได้ แล้วค่อยโอนเงินครับ

หรือถ้าได้รับเลขคูปองไปแล้วไม่ใช้ก็ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องกังวล แต่ขอให้แจ้งทางร้านด้วย เพราะต้องเคลียร์สต๊อกสินค้าครับ ^^


2. โทรจองรถ 

ลูกค้าโทรจองรถโดยใช้เลขคูปองที่ส่งไปให้ทาง LINE ครับ ใน LINE จะมีเบอร์ Call center ของผู้ให้บริการแนบไปด้วยครับ 

ต้องโทรจองด้วยตนเอง เพราะ Call center จะมีการถามข้อมูลส่วนตัวด้วย เช่น บัตรประชาชน หรือบัตรเครดิตครับ 

สำหรับบางท่านที่ยังไม่มีวันใช้รถแน่นอน แต่ต้องการซื้อคูปองไปเก็บไว้ก่อนก็ไม่ต้องโทรจองรถ สามารถข้ามไปขั้นตอนต่อไปได้เลยครับ


3. คูปองตัวจริงสามารถเลือกรับได้ 2 วิธี


1. ส่งไปรษณีย์ EMS (ส่งฟรี)

ทางร้านจะส่งเลขคูปองและเลขบัญชีธนาคารสำหรับโอนเงินให้ทาง LINE

หลังโอนเงินให้แจ้งชื่อ ที่อยู่ สำหรับจัดส่งคูปองให้ทางร้าน

เมื่อทางร้านส่ง EMS แล้ว จะส่งหมายเลข Tracking number ให้ทราบทาง LINE ครับ

สามารถตรวจสอบเวลาที่ใช้ในการส่งคูปองได้ตาม link > Click

**สามารถส่ง EMS ไปต่างประเทศได้ แต่ต้องจ่ายส่วนต่างเพิ่มจากค่า EMS ในประเทศครับ (EMS ในประเทศ 32 บาท)

2. มารับเองได้ 2 จุด คือที่สถานีรถใต้ดินบางซื่อ (MRT บางซื่อ)

ถ้ามารับเองสามารถจ่ายเงินสดตอนรับได้เลย ไม่ต้องโอนเงินมาก่อน นัดรับได้ตั้งแต่เวลา 8.00 - 18.00 น. ควรแจ้งเวลาที่จะมารับคร่าวๆล่วงหน้าก่อน เนื่องจากบางวันหรือบางช่วงเวลาอาจไม่สะดวกครับ

รอรับคูปองที่สถานีบางซื่อบริเวณจุดแตะบัตร โดยไม่ต้องออกจากสถานีได้ โดยรอที่บริเวณลูกศรสีแดงในรูปครับ ^^ (สถานีบางซื่อมีทางออกด้านเดียว เนื่องจากเป็นสถานีปลายทาง)




หรือมารับเองที่ตลาดบองมาเช่ (Bon Marche') 

> นัดรับที่นี่ขอให้โทรหาเฉพาะคุณวีระ ตลาดอยู่ใกล้ๆวัดเสมียนนารี นัดรับวันธรรมดาได้ช่วงหลัง 18.00 น. ส่วนวันหยุดนัดเป็นครั้งๆไปครับ 


3.ให้ส่งด้วยแมสเซนเจอร์ (messenger) 

จะจัดส่งด้วย Line man หรือ Grab bike ครับ ค่าบริการส่งตามจริงที่ทาง Line man หรือ Grab bike คิดครับ (เฉพาะในเขตกรุงเทพ และใกล้เคียง เช่น นนทบุรี) 


4. วันรับรถเช่าให้เตรียมเอกสาร 4 อย่างไปรับรถเช่าด้วย





l carrentcheap l

[Continue reading...]

สาขารถเช่า

- 0 ความคิดเห็น
กรุงเทพ

ภาคกลางและภาคตะวันออก

ภาคเหนือ 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน)

ภาคใต้


ตำแหน่งที่ตั้งสาขารถเช่า + แผนที่ Google map ตาม  link ของบริษัทต่างๆ ด้านล่างเลยครับ

บัดเจ็ท Budget 
https://www.budget.co.th/thai/Location.aspx

เอวิส Avis
http://www.avisthailand.com/TH/renting_guide_location.php

เฮริท Hertz
https://www.hertz.co.th/rentacar/location




l carrentcheap l



update บทความเมื่อ : วันที่ 31 ธันวาคม 2562


[Continue reading...]

เช่ารถด้วยคูปองครั้งแรก ควรอ่าน

- 0 ความคิดเห็น

คูปอง รถเช่า หรือ voucher รถเช่า เป็นคูปองที่บริษัทผู้ให้บริการรถเช่าออกขายให้ผู้ต้องการจะเช่ารถและรับ เงินสดไปก่อน ผู้ซื้อสามารถนำคูปองไปใช้เช่ารถได้ภายใน 1 ปี 

คูปองรถเช่ามีหลายบริษัท ปัจจุบันมี 4 เจ้าหลักๆคือ เอวิส (Avis), บัดเจ็ท (Budget), ซิคท์ (Sixt) และ เฮิร์ (Hertz) แต่ละบริษัทจะมีราคาไม่เท่ากัน มีการบริการ และสภาพรถที่ต่างกันครับ ข้อดีข้อเสียของแต่ละเจ้าสามารถหาอ่านได้จากบทความในเวปครับ


การเช่ารถด้วยคูปองจะแบ่งราคาค่าเช่าเป็น 4 อัตรา คือ



การคำนวณจำนวนคูปองรถเช่าที่จะต้องใช้

คูปอง 1 ใบสามารถใช้เช่ารถได้ 24 ชั่วโมง และวันสุดท้าย
สามารถคืนรถช้าได้ 4 ชั่วโมงจากเวลารับรถ สำหรับคูปองเอวิส (Avis) บัดเจ็ท (Budget) และเฮิร์ (Hertz) 

*คืนรถช้าได้ 3 ชม สำหรับคูปองซิคท์ (Sixt)
 

การ คืนรถเลทได้ถึง 4 ชั่วโมงเป็นจุดเด่นของคูปองรถเช่าครับ เพราะถ้าจองตรง walk in หรือจองผ่านทางเวปของบริษัทรถเช่า จะคืนรถเลทได้สูงสุด 1 ชั่วโมงจากเวลารับรถเท่านั้น

ตัวอย่าง : ถ้ารับรถเช่าวันจันทร์เวลา 9.00 น. แล้วคืนรถวันพุธ เวลา 13.00 น.

กรณีนี้ใช้คูปองรถเช่า 2 ใบ และคืนรถเลทไป 4 ชั่วโมง ยังอยู่ในเงื่อนไข 4 ชั่วโมง ไม่ต้องเสียค่าชาร์จเช่ารถเกินเวลา 


ซึ่งกรณีนี้ถ้าเราจองทางเวปหรือเช่าตรงกับ call center จะคิดค่าเช่า 3 วัน

ข้อควรระวัง : หากคืนเกินที่กำหนดเวลาไว้ 4 ชั่วโมง จะเสียค่าใช้จ่ายโดยคิดเพิ่มเป็นเต็มวันครับ





ทำตาม 4 ขั้นตอนง่ายๆตามนี้ก็จะสามารถใช้คูปองรถเช่าได้แล้วครับ

1.ตรวจสอบคุณสมบัติผู้เช่ารถ


o อายุอย่างน้อย 21 ปี
o มีใบขับขี่ (ยังไม่หมดอายุ)
o มีบัตรเครดิตวงเงินเหลือพอสำหรับรูดมัดจำ 5,000 - 8,000 บาท (ใช้ของตนเองหรือของคนที่ไปด้วยกันก็ได้ ผู้ขับขี่และผู้รูดมัดจำไม่จำเป็นต้องเป็นคนเดียวกัน) ไม่รับบัตรเดบิตทุกกรณี ไม่มีบัตรเครดิตเช่าไม่ได้ทุกกรณี



2.เตรียมข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการเช่ารถ


 o รุ่น หรือ ประเภทรถที่อยากได้
 o วันและเวลา รับและคืนรถเช่า
 o สถานที่รับและคืนรถเช่า

ทางร้านจะคำนวณจำนวณคูปองที่ต้องใช้ และราคาค่าเช่ารถทั้งหมดให้ทราบ



3. ติดต่อซื้อคูปอง 


เพื่อนำรายเอียดบนหน้าคูปอง ไปโทรจองรถกับผู้ให้บริการรถเช่าล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 วัน

* ทางผู้เช่าต้องเป็นผู้โทรจองรถเองครับ
* ถ้าศูนย์จองรถรับจองแล้วก็แสดงว่า บริษัทรถเช่าต้องมีรถให้ผู้เช่าตามวันที่จองล่วงหน้าไว้ และจะมี SMS หรือ E-mail ส่งยืนยันให้ลูกค้า



4.เมื่อถึงวันรับรถ นำตัวคูปองรถเช่า"ฉบับจริง", บัตรประชาชน, ใบขับขี่ และบัตรเครดิต ไปรับรถด้วย


*ถ้าลืม นำคูปองรถเช่าไปจะต้องเสียอัตราค่าเช่าตามที่บริษัทกำหนด ซึ่งแพงกว่าการใช้คูปองราวๆ 30-50% ส่วนคูปองที่ลืมสามารถเก็บไว้ใช้เช่ารถภายหลังได้





ประกันภัยสำหรับคูปองรถเช่า มีอยู่ 4 แบบ คือ

1.ประกันภัยชั้นหนึ่งแบบมีความรับผิดชอบส่วนแรก เรียกว่า ประกันชนิด"มี Deduct" (รวมอยู่ในคูปองทุกแบบ เป็นประกันภัยพื้นฐาน)


คือ เมื่อรถเกิดความเสียหายหรืออุบัติเหตุกับตัวรถ กรณีที่ผู้เช่าเป็นฝ่ายผิดหรือไม่มีคู่คู่กรณี ผู้เช่าต้องเป็นคนรับผิดชอบค่าเสียหายตามจริง แต่จ่ายสูงสุดไม่เกิน 8,000 บาท 

ถ้ากรณีผู้เช่าเป็นฝ่ายถูกและมีคู่กรณี ผู้เช่าไม่ต้องรับผิดชอบค่าเสียหาย

ตย.เช่น ขับรถเช่าไปเกี่ยวกิ่งไม้รถเป็นรอย ก็ต้องรับผิดชอบจ่ายค่าเสียหายตามที่บริษัทรถเช่าแจ้ง



2.ประกันภัยชั้นหนึ่งแบบไม่ต้องมีความรับผิดชอบส่วนแรก เรียกว่า ประกันชนิด"ไม่มี Deduct"
(รวมอยู่ในคูปอง เฉพาะรุ่นไม่มี deduct)

คือ เมื่อรถเกิดความเสียหายหรืออุบัติเหตุกับตัวรถ กรณีที่ผู้เช่าเป็นฝ่ายผิดหรือไม่มีคู่กรณีก็ตาม ผู้เช่าไม่ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายใดๆ เลย

ตย. เช่น ขับรถไปเกี่ยวกิ่งไม้รถเป็นรถ ผู้เช่ารถไม่ต้องจ่ายสักบาท หรือ ขับรถไปชนต้นไม้รถพังยับทั้งคัน ผู้เช่ารถไม่ต้องจ่ายสักบาทเช่นกัน

ราคา คูปองแบบ"ไม่มี Deduct"จะแพงกว่าแบบ"มีดีดัก" เพียงวันละร้อยกว่าบาทเท่านั้นเอง จ่ายเพิ่มอีกเพียงเล็กน้อยแต่ขับสบายใจกว่าเยอะมากครับ เพราะหากมีอุบัติเหตุหรือความเสียหายเกิดขึ้นกับตัวรถทีนึง อย่างน้อยๆต้องเสียเงินอย่างน้อยหลักพันแน่ๆครับ

*ช่วงหลังทางร้าน เหลือคูปองแบบ"มีดีดัก"เพียงรถรุ่นเล็กสุดรุ่นเดียวเท่านั้นสำหรับคนที่ต้อง การเช่ารถในราคาต่ำสุดๆ รถรุ่นที่ใหญ่ขึ้นมาไม่ได้ซื้อแบบ"มีดีดัก"มาจำหน่ายแล้ว เนื่องจากไม่ค่อยมีคนซื้อ เพราะซื้อคูปองประกันแบบ"ไม่มีดีดัก" คุ้มกว่าเยอะมากจริงๆครับ

*ค่าประกันชั้นหนึ่งแบบไม่ต้องมีความรับผิดชอบส่วนแรกที่เราจ่ายเพิ่ม  ยังไม่รวมความเสียหายของ เบาะ ยางรถยนต์ (เช่น ยางแตก) และการสูญหายของกุญแจ



3.ประกันการโจรกรรมรถ หรือเรียกง่ายๆว่าประกันรถหาย (ไม่รวมในคูปอง)


กรณี รถหายผู้เช่าไม่ต้องรับผิดชอบค่าเสียหาย โดยต้องมีการรายงานเหตุการณ์ให้ตำรวจ มีการลงบันทึกประจำวัน และต้องมีการคืนกุญแจรถเช่าให้ผู้ให้บริการ การมีกุญแจคืนแสดงว่ารถหายไม่ได้เกิดจากความประมาทของผู้เช่าครับ

คูปองรถเช่าของเอวิส (Avis) บัดเจ็ท (Budget) และ เฮิร์ (Hertz) จะไม่รวมประกันแบบนี้ครับ ต้องซื้อเพิ่ม


o เอวิส ซื้อเพิ่มราคา 171.2 บาท/วัน (รวม vat)
o บัดเจ็ท และ เฮิร์ ซื้อเพิ่มราคา 53.5 บาท/วัน (รวม vat)


ส่วนคูปองรถเช่าของซิคท์ Sixt และ Hertz จะรวมประกันรถหายในคูปองแล้ว

ประกันรถหายไม่จำเป็นนักครับ ถ้าเราไม่ขับรถเข้าไปพื้นที่เสี่ยง เช่น ชายแดน เป็นต้น ถ้าไม่ได้ทำประกันรถหาย แล้วเกิดรถหายขึ้นมาจะเสียค่าปรับราวๆ 10,000 - 20,000 บาทเท่านั้น (ขึ้นอยู่กับรุ่นรถ) ผู้เช่าไม่ต้องถึงขั้นจ่ายเงินเป็นแสนเพื่อซื้อรถใหม่ครับ



4.ประกันค่ารักษาพยาบาลเมื่อเกิดอุบัติเหตุและค่าชดเชยกรณีเสียชีวิต (ไม่รวมในคูปอง)

เป็นประกันสำหรับค่ารักษาพยาบาลสำหรับตัวผู้เช่าและผู้ร่วมทางกรณีขับรถเช่าไปเกิดอุบัติเหตุ โดยมีความคุ้มครอง ค่ารักษาพยาบาล ทุพลภาพ และค่าชดเชยสำหรับทรัพย์สินที่เสียหายครับ

ไม่จำเป็นถึงที่สุดครับ แทบไม่มีลูกค้ารายไหนซื้อประกันค่ารักษาพยาบาลเพิ่มเลยครับ เพราะส่วนใหญ่มีประกันส่วนตัวกันอยู่แล้ว



การรับและคืนรถเช่ามี 2 แบบครับ

1.การรับคืนรถเองที่สาขา

ปกติ บริษัทรถเช่าจะมีสาขาอยู่ในสนามบินอยู่แล้ว คือมีเคาน์เตอร์อยู่ในสนามบินเลย หรือถ้าไม่มีเคาน์เตอร์ในสนามบิน ก็จะมีสาขาใกล้ๆสนามบินมากและบริษัทจะนำรถมาส่งให้ลูกค้าที่สนามบินฟรี

เพราะ ลูกค้าหลักของบริษัทรถเช่าคือ ลูกค้าที่ขึ้นลงเครื่องบิน ดังนั้นถ้าผู้เช่าจะรับคืนรถที่สนามบินก็สามารถรับคืนได้เลย ไม่คิดค่าบริการเพิ่ม ต่ต้องอยู่ในช่วงเวลาที่บริษัทรถเช่าให้บริการ ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่จะสามารถรับหรือคืนรถได้ดึกตามรอบขึ้นหรือลงของเครื่องบินได้ฟรี

รถ เช่าจะต้องรับและคืนรถที่สาขาเดิมเท่านั้น แต่บางจังวัดจะมีหลายสาขา เช่น กรุงเทพมีสาขาในตัวเมือง สาขาสนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเราสามารถคืนที่สาขาไหนก็ได้ ไม่มีคิดค่าบริการเพิ่ม เพราะเป็นจังหวัดเดียวกัน

การคืนรถเช่าต่างสาขาคนละจังหวัด จะมีคิดค่าบริการเพิ่ม ดังนี้

ราคาค่าบริการคืนรถต่างสาขา (ราคายังไม่รวมค่าเช่ารถ)
 

บัดเจ็ท (Budget)
o เช่ารถ 1 - 3 วัน ต่อเนื่อง ค่าบริการ 3,210 บาท (รวมภาษี)
o เช่ารถ 4 - 6 วัน ต่อเนื่อง ค่าบริการ 1,605 บาท (รวมภาษี)
o เช่ารถ 7 วัน ต่อเนื่อง ไม่คิดค่าบริการ

เอวิส (Avis) & ซิคท์ (Sixt)
o ต้องเช่ารถอย่างน้อย 3 วัน ต่อเนื่อง ค่าบริการขึ้นกับระยะทางต้องสอบถามทางเอวิส
o เช่า 7 วัน ต่อเนื่อง ไม่คิดค่าบริการ

เฮิร์ท (Hertz)
o ต้องเช่ารถอย่างน้อย 3 วัน ต่อเนื่อง ค่าบริการขึ้นกับระยะทางต้องสอบถามทางเฮิร์ต
o เช่า 5 วัน ต่อเนื่อง ไม่คิดค่าบริการ


สำหรับ คนที่ต้องการเช่ารถจากจังหวัดหนึ่ง เพื่อไปคืนรถที่สนามบินอีกจังหวัดหนึ่งจะเห็นว่าราคาที่ต้องจ่ายเพิ่มแพงมาก เนื่องจากบริษัทรถเช่าต้องมีค่าใช้จ่ายในการไปรับรถกลับมาคืนที่สาขาเดิม จึงต้องคิดค่าบริการในอัตราตามจำนวนวันเช่าหรือตามระยะทาง


2. การใช้บริการรับคืนรถ นอกสถานที่

กรณี ที่ลูกค้าต้องการจะรับหรือคืนรถเช่า นอกสถานที่ที่ไม่มีบริษัทไม่มีสาขาอยู่ เช่น ให้บริษัทรถเช่า นำรถไปส่ง หรือให้ไปรับรถคืนที่โรงแรม ท่าเรือ ท่ารถทัวร์ เป็นต้น จะมีเงื่อนไขเพิ่มเติม ดังนี้

กรณีเช่ารถ 1 - 2 วัน จะคิดค่าบริการเพิ่ม ค่าบริการขึ้นกับแต่ละบริษัทรถเช่า และขึ้นกับระยะทาง โดยค่าส่งรถเริ่มต้นเที่ยวละ 321 บาท


กรณี เช่ารถอย่างน้อย 3 วัน ต่อเนื่อง รับ หรือ ส่งรถฟรี ในระยะ 15 หรือ 30 กม ตามเงื่อนไขของแต่ละบริษัท หากเกินระยะทางที่กำหนดจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม

 

l carrentcheap l



[Continue reading...]

การคำนวณราคาเช่ารถเมื่อใช้คูปองรถเช่า AVIS และ BUDGET

- 0 ความคิดเห็น

หยิบเครื่องคิดเลข แล้วมาลองคำนวณค่าใช้จ่ายกันดูครับ ;D
 
 


- 1 วันนับเป็น 24 ชั่วโมง วันสุดท้ายแถมได้ไม่เกิน 4 ชั่วโมง สำหรับ AVIS และ Budget


- กรณีวันหยุด ที่ต้องจ่ายส่วนต่างราคาค่า Voucher เพิ่มนับตามตัวอย่างครับ


ตัวอย่าง 1 : เช่ารถ Avis รุ่น VIOS โดยใช้คูปองชนิด"ไม่มี Deduct" วันพฤหัส เวลา 12.00 น. เช่ารถ 2 วัน จะต้องคืนรถในวันเสาร์ ไม่เกิน 16.00 น.

การนับ Voucher จะนับเป็น 

 - วันแรก วันพฤหัส-วันศุกร์ นับเป็นวันธรรมดา เพราะรับรถวันพฤหัสบดี คิดเป็นราคาค่าเช่ารถ 740 บาท

 - วันที่สอง วันศุกร์-วันเสาร์ นับเป็นวันหยุด ดังนั้นต้องจ่ายส่วนต่างราคา/ค่าธรรมเนียมเพิ่ม 1 วัน ในวันที่สองครับ คิดเป็นราคาค่าเช่ารถ 740 + 250 = 990 ครับ

รวมเช่ารถ 2 วันราคา 740 + 990 = 1730 บาท เฉลี่ยวันละ 865 บาทเท่านั้นครับ (ราคารวมประกันชั้น 1 แล้ว)


ตัวอย่าง 2 : สนามบินตรัง รถ VIOS แบบ "ไม่มี deduct" วันจันทร์ที่ 15 - พุธที่ 18 เมษายน

การเช่ารถเดือนเมษายนต้องระวังครับ เนื่องจากช่วงนี้มี Peak period หลายวัน ซึ่งหากตรงวัน peak period จะถูก charge 500 บาทต่อวัน เพิ่มจากราคาคูปองครับ


ทั้ง Avis และ Budget มีวัน Peak period เหมือนกัน ซึ่งจะคิดราคาค่าเช่าได้ ดังนี้

ของ Avis

วันที่ 15 ถึง 16 = 740 + 500
วันที่ 16 ถึง 17 = 740 + 500
วันที่ 17 ถึง 18 = 740 + 500


ของ Budget

วันที่ 15 ถึง 16 = 790 + 500
วันที่ 16 ถึง 17 = 790 + 500
วันที่ 17 ถึง 18 = 790 + 500


ราคารวม Avis 3,720 บาท ของ Budget 3870 บาท เฉลี่ยประมาณวันละ 1240 ถึง 1290 บาท > ราคาสูงกว่าปกติครับ เนื่องจากช่วง Peak period คนเที่ยวจำนวนมาก จำนวนรถเช่าไม่เพียงพอ ทางบริษัทรถเช่าจึงสามารถชาร์จราคาได้ครับ

l carrentcheap l

[Continue reading...]
 
Copyright © . คูปองเช่ารถ Avis , Budget, Hertz - Posts · Comments
Theme Template by BTDesigner · Powered by Blogger